เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในการประชุมคณะทำงานส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพรในเรือนจำ/ทัณฑสถาน โดยมี นพ.วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมประชุม พร้อมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ร่วมกับ นายอำพันธ์ เวฬุตันติ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภญ.มนฑกา ธีรชัยสกุล ผอ.กองสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจ กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรือนจำหลายแห่งมีพื้นที่สำหรับการเพาะปลูก ตนอยากเห็นพืชสมุนไพรที่มีในประเทศไทยได้ใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ประชาชนติดโควิด-19 อย่างมากมาย ตนมีตัวเลขที่น่าสนใจ คือ มีเรือนจำกลางเชียงใหม่มีผู้ติดเชื้อโควิดรักษาโดยใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ 1,251 คน และใช้ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร 2,914 คน รักษาหายได้ ซึ่งผบ.เรือนจำกลางเชียงใหม่ได้ยืนยันว่าผู้ที่มีอาการไอหอบหืดมีปัญหาหนักใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ ส่วนผู้ที่อาการไม่หนักหรือผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวก็ใช้ฟ้าทะลายโจรรักษา วันนี้เรามีผู้ติดเชื้อทั่วประเทศวันละ 9,000 กว่าราย หากเรามีสมุนไพรตรงนี้มาช่วยคนที่ไม่มีอาการรุนแรง อาจจะรักษาได้หรืออาการจะน้อยลง หากข้อมูลตรงนี้เป็นประโยชน์ก็ขอให้หน่วยงานต่างๆนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด

นายอำพันธ์ กล่าวว่า ทางกระทรวงเกษตรฯ พร้อมที่จะให้การสนับสนุนในการสำรวจพื้นที่การเพาะปลูกตรวจสอบคุณภาพของดินและน้ำ รวมถึงสภาพภูมิอากาศ และพร้อมให้คำแนะนำความรู้ในการเพาะปลูก หากกรมราชทัณฑ์มีปัญหาทางด้านใดสามารถติดต่อมายังกระทรวงเกษตรได้ทันที

ด้านนายปานเทพ กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับการปลูกฟ้าทะลายโจรอย่างเร่งด่วนเพื่อใช้ในการรักษาโควิด-19 เพราะจากผลการวิจัยหลายแห่งได้ระบุถึงสรรพคุณในการป้องกันและรักษาโควิดได้ ซึ่งขณะนี้ฟ้าทะลายโจรขาดตลาดอย่างมาก เพราะประชาชนเริ่มมั่นใจในตัวสมุนไพรมากขึ้น ดังนั้น นี่จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรักษา

นพ.อรรถพล กล่าวว่า วัคซีนที่จะนำมาฉีดนั้นขณะนี้ยังต้องรอเพราะผลิตและส่งมาไม่ทัน แต่การระบาดของโรคในประเทศยังมีมากขึ้น ดังนั้น ต้องมีการหาทางรักษาอื่น รักษาแต่เนิ่นๆ แต่ต้องมีการศึกษาว่าต้องใช้อย่างไรและเท่าไรเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด