เมื่อวันที่ 16 ก.ค. นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี เขต 4 พรรคประชาธิปัตย์ ปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิการงบประมาณด้านคุรุภัณฑ์และไอซีที ได้เข้าร่วมประชุมอนุกรรมาธิการงบประมาณรายจ่ายปี 2565 สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งได้มีการเชิญปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และอธิบดีกรมควบคุมโรคติดต่อ มาให้ข้อมูล โดยในที่ประชุมดังกล่าว ได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตนจึงตั้งประเด็นสอบถามผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข ถึงความไม่เป็นธรรมในการจัดสรรวัคซีนในจังหวัดราชบุรี เนื่องจากในเดือน ก.ค.64 จังหวัดราชบุรีได้รับการจัดสรรวัคซีน จำนวน 78,000 โด๊ส ในช่วงสัปดาห์แรก (วันที่ 5–11 ก.ค.) แบ่งเป็นวัคซีนซิโนแวค จำนวน 5,900 โด๊ส และแอสตราเซเนกา จำนวน 10,900 โด๊ส รวมทั้งสิ้น 16,800 โด๊ส แต่ปรากฏว่า อำเภอบ้านโป่ง ได้รับวัคซีนเพียง 700 โด๊ส เท่านั้น ทั้งที่อำเภอบ้านโป่งเป็นเมืองเศรษฐกิจ มีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของจังหวัดราชบุรี มีประชากรแฝงที่เป็นกลุ่มแรงงานต่างถิ่น และแรงงานข้ามชาติมากที่สุดของจังหวัด รวมไปถึงมีผู้ลงทะเบียนขอรับวัคซีนผ่านแอพพลิเคชั่นหมอพร้อมมากที่สุดอีกด้วย

ทั้งนี้จากข้อมูลของ รพ.บ้านโป่ง วันที่ 16 ก.ค.64 พบว่ามียอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสม จำนวน 684 ราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่ 29 ราย จากกลุ่มคลัสเตอร์ใหญ่ 3 แห่ง จนต้องมีการตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้น แต่ในทางกลับกันเป็นที่น่าสังเกตว่า วัคซีนได้ถูกจัดสรรไปกองที่อยู่อำเภอหนึ่งในปริมาณที่เยอะมาก แม้แต่ในส่วนของ อสม. ซึ่งเป็นด่านหน้าก็ได้รับการฉีดวัคซีนเพียง 17.9 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่บางอำเภอได้รับการฉีดครบ 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นการบ่งชี้ได้ว่ามีความผิดปกติเข้าไปแทรกแซง เพราะตัวเลขของกลุ่ม อสม. ที่ได้รับวัคซีนดูผิดปกติ เกิดความเหลื่อมล้ำ ไม่สอดคล้องกัน จึงต้องการให้ท่านผู้ตรวจราชการ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาตรวจสอบความผิดปกติที่เกิดขึ้น เพราะถ้าหากยังกระจายวัคซีนที่ไม่เป็นธรรม ตนมองว่ามันไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการเอาชีวิตของพี่น้องประชาชนแลกกับความดีความชอบของตนเองในการเติบโตในตำแหน่งหน้าที่การงาน.