Bird Express คือ Startup ที่ได้เล็งเห็นถึงปัญหาของธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศในปัจจุบัน และสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ามากขึ้น โดยสินค้าที่ให้บริการจะเน้นไปที่กลุ่มสินค้าอาหารทะเล(มีชีวิต) ผัก ผลไม้ สิ่งของมีค่า และสิ่งของเร่งด่วนเป็นหลัก โดยจุดเด่นของการขนส่ง คือ บริการ Sameday ระยะทางไกลที่รวดเร็วที่สุด และยังมีบริการเลือกเวลาจัดส่งสินค้าปลายทางได้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด

จากที่คุณสตางค์ นายหรรษธร ศรีสุข กรรมการบริษัทเอวินดัส ผู้บริหารธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศภายในประเทศสายการบิน Thai Smile ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า

เราจัดตั้งบริษัท Bird Express Logistics ขึ้นมาเพราะเราได้เห็นถึงปัญหาและโอกาสของธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศ เราจึงมีวิสัยทัศน์ที่จะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางอากาศ ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ราคาจับต้องได้ และเป็นการขนส่งสินค้าระยะทางไกลแบบรวดเร็วที่สุด ในธุรกิจปัจจุบันกลุ่มลูกค้าจะเป็นแบบ B2B เป็นหลัก โดยมีสัดส่วนการขนส่งอยู่ที่ 95% เมื่อเทียบกับกลุ่มลูกค้า B2C ที่มีแค่ 5% เนื่องจากไม่ได้มีการสื่อสารในกลุ่มลูกค้า B2C อย่างจริงจัง อีกทั้งมีการเข้าถึงได้ยาก เพราะลูกค้าต้องไปส่งที่อาคารคลังสินค้าในสนามบินเอง และลูกค้าปลายทางต้องไปรับสินค้าที่คลังสินค้าในสนามบินเองเช่นกัน มากกว่านั้นราคาค่าบริการยังค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการขนส่งทั่วๆไป ทั้งที่ความจริงแล้วนั้น อัตราค่าบริการที่ให้บริการกับกลุ่มลูกค้า B2B ราคาเฉลี่ยอยู่แค่ที่ 8-12 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น เนื่องจากปริมาณการขนส่งต่อครั้งจะมากกว่า 100 กิโลกรัมขึ้นไป

โดยปัจจุบันอัตราค่าบริการเริ่มต้นของการขนส่งสินค้าทางอากาศแบบ Port to Port ที่แต่ละสายการบินคิดจะอยู่ที่ประมาณ 120-190 บาท (แล้วแต่สายการบินและสถานีต้นทาง/ปลายทาง) แต่สำหรับ Bird Express ที่มีเป้าหมายจะทำให้ทุกคนเข้าถึงบริการได้ โดยราคาค่าขนส่งต้องจับต้องได้มากขึ้น จึงทำให้เราเสนออัตราค่าบริการขนส่งสินค้าทางอากาศ “เริ่มต้นเพียง 70 บาท เท่านั้น!”

เนื่องจากความได้เปรียบทางด้านธุรกิจ หรือเรียกว่า Unfair Advantage ที่ในปัจจุบันทางบริษัทเอวินดัสเป็นบริษัทที่ได้รับสัมปทานบริหารธุรกิจขนส่งสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ของสายการบินไทยสมายล์

ทำให้เราสามารถกำหนดราคา และพื้นที่ใต้ท้องเครื่องของสายการบินไทยสมายล์ได้ จึงทำให้เรามีโอกาสตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุดมากที่สุด ทั้งเรายังได้ร่วมมือกับบริษัท มัลติเวิร์ส เอ็กเปอร์ท จำกัด โดยมี คุณวุดดี้ นายพงศ์วุฒิ ไพรไพศาลกิจ ตำแหน่ง CEO เป็นหัวหอกในการพัฒนา Application และระบบเทคโนโลยีทางด้านการขนส่งให้กับ Bird Express ทำให้เรามั่นใจว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการขนส่งทางอากาศ ให้สามารถครองใจกลุ่มลูกค้ารายย่อยได้มากขึ้น ทั้งกลุ่ม B2C และ B2B นั้นเอง

มากกว่านั้นทางบริษัทได้เห็นถึงโอกาสที่จะทำให้กลุ่มลูกค้าเข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น โดยการทำบริการแบบ Door to Door Service เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ไม่อยากเสียเวลา เสียค่าน้ำมัน หรือจ้างรถมาส่งเอง โดยในช่วงแรกจะเริ่มเปิดบริการแบบ Point to Door ก่อน และจะดำเนินการเปิดบริการแบบเต็มรูปแบบ Door to Door Service ภายในกลางปี 65

คุณสตางค์ยังได้กล่าวอีกว่า “การขนส่งสินค้าทางรถในปัจจุบัน ยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ขนส่งสินค้าประเภทอาหารทะเล(มีชีวิต) ผัก ผลไม้ เนื่องจากระยะเวลาในการขนส่งค่อนข้างนาน และมีโอกาสทำให้สินค้าเสียหายสูง แม้ว่าปัจจุบันจะมีการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิที่พยายามที่จะเข้ามาแก้ปัญหาเรื่องนี้ แต่ก็ยังไม่สามารถตอบโจทย์การขนส่งได้อย่างเบ็ดเสร็จ เพราะสินค้าเหล่านี้มีความต้องการ การจัดเก็บด้วยอุณหภูมิที่หลากหลาย และต้องการความรวดเร็วเป็นหลัก เพื่อรักษาคุณภาพที่สดใหม่ที่สุด”

ในปี 65 นี้ Bird Express มีแผนการที่จะบุกตลาดแบบเต็มรูปแบบ ทั้งเปิดรับตัวแทนจุดรับสินค้าเพิ่มเติมในทุกจังหวัดที่มีการขนส่งสินค้าทางอากาศ โดยการขยายสาขามากกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ และเปิดตัว Application Bird Express เพื่อให้ลูกค้าสามารถเรียกรถไปรับได้ถึงหน้าบ้าน โดยคาดการณ์ว่ายอดขนส่งปี 65 ของบริษัท จะอยู่ที่ประมาณ 4000 ตันต่อปีเลยทีเดียว

Bird Express มีแพลนที่จะขยายบริการขนส่งไปทั่วโลก เนื่องจากกลุ่มลูกค้าเดิมนั้นมีความต้องการส่งออกอยู่แล้ว ทั้งเรายังมีพันธมิตรที่เป็น freight forwarder อีกหลากหลายบริษัท เช่น DHL, FedEx, Aeronaut Freight และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้เรามั่นใจที่มุ่งหน้าไปสู่ Global Company และภายใน 3 ปี Bird Express มุ่งหน้าที่จะเป็นยูนิคอนอีกตัวของประเทศไทย เพื่อปักธงชัยไปสู่เวทีโลก