“ช้างศึก” ทีมชาติไทย จะพบ อินโดนีเซีย ในรอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2020” โดยจะเตะนัดแรก วันที่ 29 ธ.ค.64 ก่อนที่นัด 2 เตะวันที่ 1 ม.ค.65 ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ เวลาไทย 19.30 น. ช่อง 7 HD และ AIS PLAY ยิงสด

อ่านข่าว : ชินแตยัง ชู ช้างศึกไร้จุดอ่อน แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้

เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.64 ได้มีการแถลงข่าวก่อนเกม มาโน โพลกิง เฮดโค้ชทีมชาติไทย กล่าวว่า รู้ถึงสถิติของอินโดนีเซียเป็นอย่างดี (เข้าชิงฯ 5 ครั้ง แพ้รวด เป็นการแพ้ไทย 3 ครั้ง) เข้าใกล้แชมป์มาหลายครั้ง แต่ไม่ว่าใครเวลาเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศก็ต้องหวังถึงแชมป์อยู่แล้ว อินโดนีเซียเป็นทีมที่ดี ได้พักมามากกว่าไทย 1 วัน แต่ไม่มีผลอะไรกับทีมชาติไทย จะวิเคราะห์การเล่น หาแผนการเล่น และเลือกผู้เเล่นที่ดีที่สุดลงสนาม อินโดนีเซียสามารถเล่นได้หลากหลายรูปแบบ เกมกับเวียดนามสามารถเล่นเกมรับได้อย่างดีและเก็บผล 0-0 ขณะที่เกมอื่นๆ ก็แสดงให้เห็นว่ามีเกมรุกที่อันตราย ดังนั้นทีมไทยก็จะต้องเตรียมพร้อมรับมือ แน่นอนว่าตอนนี้มันกลับมาเป็นเกม 180 นาที ที่ทุกอย่างเท่ากันที่ 0-0 อีกครั้ง ไทยจะต้องเริ่มต้นให้ดีเหมือนเกมเจอกับเวียดนาม เพราะมันจะช่วยให้วางแผนในการเล่นนัดที่ 2 ได้ดี

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า กรณี ชินแตยัง โค้ชอินโดนีเซีย วิเคราะห์ว่าไทยครองบอลไม่ดี คิดว่าจะเป็นปัญหาหรือไม่ มาโน ตอบว่า ทีมชาติไทยเล่นกับทุกทีมก็ครองบอลมากกว่าทุกนัด และการครองบอลคือจุดแข็งของทีมอยู่แล้ว คิดว่าไม่ใช่ปัญหาอะไร บางทีชินแตยังอาจจะไปมองบางช่วงของเกมที่เจอกับเวียดนามและเข้าใจผิดมากกว่า

“เรื่องสนามแข่งแน่นอนว่ามันไม่ค่อยดีเท่าไหร่เพราะเล่นกันมาหลายนัดมากแล้ว แต่ในเมื่อโค้ชอินโดนีเซีย บอกว่าทีมเราครองบอลไม่ดี ดังนั้นที่สนามไม่ดีก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเราอยู่แล้ว” มาโน กล่าว

เมื่อถามถึงผู้เล่นเด่นของอินโดนีเซีย มาโน กล่าวว่า สิ่งที่ประทับใจมากที่สุดคือแนวทางการเล่นของอินโดฯ เป็นทีมที่อายุน้อยและทำงานกันหนักทั้งทีม ส่วนตัวโค้ชก็มีประสบการณ์อย่างมาก แต่ทีมชาติไทยก็จะมองที่ทีมตัวเองเท่านั้น มันเป็น 2 เกมที่ยาก แต่จะทำผลงานให้ดีที่สุดเพื่อนำถ้วยแชมป์กลับบ้านให้ได้

มาโน กล่าวด้วยว่า น่าเสียดายสำหรับ ฉัตรชัย บุตรพรม ที่ได้รับบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าด้านซ้ายขาด ซึ่งช่วยให้ทีมผ่านมาถึงรอบชิงชนะเลิศ ขณะที่ ธีราทร บุญมาทัน ที่โดนแบนเกมแรก คือนักเตะที่มีประสบการณ์สูงที่สุดในทีมคนหนึ่งและเป็นผู้เล่นคุณภาพ อย่างไรก็ตามจะไม่มีธีราทรเพียงแค่ 90 นาทีแรกเท่านั้น นับเป็นเรื่องดีที่จะได้ความสดของ ธีราทร กลับมาในเกมที่ 2 ส่วนเรื่องตัวแทนทีมชาติไทยนั้นมีคุณภาพผู้เล่นบนม้านั่งสำรองที่ดีอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่มีปัญหาอะไร

เมื่อถามว่า หลังจากชนะเวียดนามได้ ตอนนี้ทีมไทยสามารถพูดว่าเป็นเบอร์ 1 ของอาเซียนได้หรือยัง มาโน กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะพูดเรื่องของการเป็นเบอร์ 1 อาเซียน ทีมไทยยังคงมีเป้าหมายในการคว้าแชมป์กลับบ้านให้ได้ ยังเหลือเกมที่ยากอีก 2 เกมรออยู่และจะต้องมีสมาธิกับตรงนั้น

ด้าน “ตังค์” สารัช อยู่เย็น กองกลางทีมชาติไทยที่เคยคว้าแชมป์ร่วมกับทีม 2 สมัย กล่าวว่า ทีมชาติไทยมีประสบการณ์มากกว่าอินโดนีเซียก็จริง แต่เกมพรุ่งนี้จะเป็นเกมที่ยากแน่นอน รายการนี้อินโดนีเซียทำผลงานได้ดีตั้งแต่เกมแรก อย่างไรก็ตามทีมชาติไทยมีวิธีการเล่น และมีแผนที่วางเอาไว้จะใช้อยู่แล้ว มันอยู่ที่ในเกมใครจะผิดพลาดน้อยกว่าและแสดงศักยภาพออกมาได้ดีกว่ากัน

“เราไม่ได้กังวลหรือโฟกัสใครเป็นพิเศษ เรามีรูปแบบการเล่นของเรา จะใช้จุดเด่นของทีมเก็บชัยชนะให้ได้ เล่นตามสไตล์ของตัวเอง ไล่เพรสซิ่ง ต่อบอลทำชิ่ง แล้วจะพยายามคว้าแชมป์ให้ทีมชาติไทยให้ได้” สารัช กล่าวปิดท้าย