จากกรณี นายเอ (นามสมมุติ) นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนเข้าพักในโรงแรมย่านสุขุมวิท ภายหลังมีการตรวจโควิด-19 แล้วพบว่าติดเชื้อ ซึ่งต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัวและรักษา แต่ปรากฏว่า นายเอ กลับหลบหนีไปยังเมืองพัทยา โดยเข้าไปขอพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง แต่เพราะไม่ยอมแสดงหนังสือเดินทาง ทำให้โรงแรมปฏิเสธการให้เข้าพัก จึงได้เหมารถพาไปยังเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ทำให้ตำรวจออกหมายจับดำเนินการทางกฎหมาย

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายงานเกี่ยวข้องได้เข้าคุมตัว นายเอ ได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เกาะสมุย แล้วโดยเบื้องต้น นายเอ ให้การอ้างว่า เดินทางเข้าประเทศไทยด้วยรูปแบบ เทสต์ แอนด์ โก ที่กรุงเทพฯ ซึ่งระหว่างรอผลตรวจจากโรงพยาบาลที่ใช้เวลานาน จึงได้แอบหนีออกมาเพื่อท่องเที่ยว โดยเดินทางมายังเกาะสมุยเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ นายเอ ได้ระบุว่า ตนไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยการตรวจเชื้อในโพรงจมูกจากคลินิกแห่งหนึ่งพื้นที่เกาะสมุย ปรากฏว่าผลการตรวจออกมาเป็นลบ ไม่พบเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งการตรวจหาเชื้อครั้งนี้ ตนตั้งใจที่จะนำไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ เพราะต้องการเดินทางกลับประเทศอิสราเอล ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจหาเชื้อโดยละเอียดอีกครั้ง พร้อมกักตัว นายเอ ไว้ยังโรงแรมที่ห้องเลขที่ 8 เพื่อดูอาการ และรอผลตรวจซึ่งคาดว่าจะทราบผลภายในวันนี้.