เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 21 ธ.ค. ที่ผ่านมา ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการแก้ไขกฎหมายสารต้องห้ามกีฬาของประเทศไทยหลังถูกองค์กรต่อต้านสารต้องห้ามโลก (WADA) หรือวาดา ลงโทษแบนห้ามเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขัน 1 ปี ซึ่งมีพรรคการเมืองนำไปโจมตีว่ารัฐบาลแก้ปัญหาช้า ทำให้นักกีฬาไทย โดยเฉพาะล่าสุด “บาส-ปอป้อ” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ที่คว้าแชมป์แบดมินตันชิงแชมป์โลก “เวิลด์แชมเปี้ยนชิพส์ 2021” ที่ประเทศสเปน ขึ้นรับแชมป์โดยได้แต่ร้องเพลงชาติไทยอย่างเดียว ไม่มีธงชาติไทยชักขึ้นยอดเสา มีแต่ธงของสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ว่า การแก้ไขข้อกฎหมายให้สอดคล้องกับวาดา ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วอยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบ คาดว่าจะเรียบร้อยในเร็วๆ นี้ เพื่อให้เป็นไปตามที่วาดาต้องการ ส่วนที่ห้ามให้เชิญธงชาติขึ้นเสาหากได้แชมป์ในรายการระดับนานาชาติและภูมิภาคนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ถือเป็นกฎกติกาของเขาและต้องไปดูในเรื่องของกฎหมายว่าวาดาต้องการอะไร
เมื่อถามว่าจะต้องกำหนดกรอบเวลาหรือไม่ว่ากฎหมายจะต้องเสร็จเมื่อใด พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสภาฯว่าจะออกเป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)หรือออกเป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ซึ่งขณะนี้กำลังพิจารณาอยู่
นายกฯ สั่งแก้กฎหมายให้เร็วที่สุด
นอกจากนั้น ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามแทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ถึงกรณีที่นักกีฬาที่ได้รับรางวัลถูกห้ามใช้ธงชาติและเพลงชาติ ในการรับรางวัล รัฐบาลจะมีการแก้กฎหมายสารกระตุ้นให้สอดคล้องกับข้อตกลงวาดาว่าอย่างไรนั้น ว่า นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าขณะนี้กำลังดำเนินการแก้ไขกฎหมายโดยเร็วที่สุด และได้มีการหารือกับองค์การต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (World Anti-Doping Agency: WADA) หรือวาดา อย่างต่อเนื่อง
นายกฯ ยังกล่าวถึงกฎหมายสารต้องห้ามกีฬาของประเทศไทยหลังถูกวาดา ลงโทษแบนห้ามเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขัน 1 ปี นั้นเสร็จเรียบร้อยแล้วและจะนำเข้าที่ประชุมครม.ในสัปดาห์หน้า หากผ่านครม.แล้วจะออกเป็นพระราชกำหนด
นอกจากนั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เตรียมร้องป.ป.ช.เอาผิด กรณีที่ไทยถูกแบนห้ามใช้ธงชาติไทยแข่งขันกีฬา ซึ่งเป็นผลมาจากการทำผิดกฎของวาดา โดยระบุสั้นๆ ว่า “ร้องไปเลย ร้องไปเลย เพราะเราได้แก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และคาดว่าจะแล้วเสร็จในสัปดาห์หน้า”
