เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. นายไพฑูรย์ จารุสาร ผอ.รร.สวนกุหลาบวิทยาลัยนนทบุรี เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยนนทบุรี ได้จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่างโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี สมาคมศิษย์เก่าสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี โดย นายสุรชัย ชมเพลินใจ นายกสมาคมศิษย์เก่าสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี เพื่อสนับสนุนการจัดการศึกษา และยกระดับสมรรถนะด้านเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) และปัญญาประดิษฐ์ (Arificial Intelligent : AI ให้นักเรียนที่มีความสนใจ โดยโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยนนทบุรีได้ดำเนินการพัฒนาหลักสูตร IOT และ AI ขึ้นเนื่องจากโลกในยุคปัจจุบัน มีการเปลี่ยนแปลงที่เร็วมาก จึงถือเป็นการนำร่องจัดการจัดการศึกษาหลักสูตรนี้ขึ้นที่แรกในจังหวัดนนทบุรี เพื่อให้เยาวชนก้าวตามให้ทันวิวัฒนาการและเทคโนโลยี หลักสูตรนี้จะนำพาให้เยาวชนมีความรู้ความสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ นอกจากนี้ยังเกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ โดยการนำนักเรียนที่มีสมรรถนะความสามารถมารวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ในการพัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ

นายไพฑูรย์ กล่าวต่อไปว่า เป้าหมายความสำเร็จการผลิตนวัตกรสายเลือด “สวนนนนท์” นักเรียนทุกคนที่เรียนหลักสูตรนี้ จะต้องมีนวัตกรรมของตนเอง ซึ่งอาจเป็นกลุ่มหรือเดี่ยวก็ได้ เรามีความเชื่อว่า ลูกๆ สวนนนท์จะสร้างผลงานให้เราเกิดความประหลาดใจได้ ซึ่งโรงเรียนได้เริ่มพัฒนาหลักสูตรนี้ตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ไปจนถึงระดับชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 6 โดยความร่วมมือกัน 6 องค์กรใหญ่ มีการวางแนวทางมานานพอสมควรนอกจากนี้ยังมีการวางแผนหลักสูตรระยะสั้น ที่สามารถนำไปเสริมในหลักสูตรของการเรียนการสอนปกติโดยมีการนับหน่วยกิต และการออกค่ายกิจกรรมซึ่งจะไม่มีการนับหน่วยกิต นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมบ้านหลังเรียน เรียกว่า “บ้านนวัตกร” เป็นการให้นักเรียนมารวมตัวกันเพื่อฝึกเรียนรู้และแลกเปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับเรื่องปัญญาประดิษฐ์ และระบบอินเทอร์เน็ตออพติก

ปัจจุบันโรงเรียนจะเปิดห้องเรียนพิเศษประเภทต่าง ๆ เพื่อให้นักเรียนมาสอบแข่งขันเพื่อเข้าเรียนและเสียค่าใช้จ่ายในการเรียนมากขึ้นกว่านักเรียนห้องเรียนปกติ เนื่องจากต้องจัดทำห้องปรับอากาศให้เรียน ต้องเตรียมสิ่งพิเศษต่าง ๆ เพิ่มขึ้น เป็นต้น แต่การเรียนหลักสูตรนี้นักเรียนไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายในการเรียนแต่อย่างใด เป็นห้องเรียนพิเศษที่ผู้ปกครองไม่ต้องเสียเงินพิเศษ ขอฝากถึงผู้ปกครองหากเห็นว่าบุตรตนเอง มีความสามารถในด้านการคิด การประดิษฐ์ มีความคิดที่แตกต่างออกไป อย่าไปปิดกั้นแนวความคิดของเด็ก ให้ผู้ปกครองช่วยส่งเสริมให้เขาเป็นนวัตกรที่ผลิตนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ของโลกต่อไปในอนาคต แต่ไม่ได้กำหนดให้นักเรียนมีสมรรถนะความสามารถในด้านนี้เพียงอย่างเดียว สามารถนำสมรรถนะทางด้านศิลปะ ด้านธุรกิจหรือด้านอื่นๆ มาร่วมผลิตนวัตกรรมร่วมกัน ก็จะทำให้สิ่งที่ประดิษฐ์ร่วมกันมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น นายไพฑูรย์ กล่าว