มาโน โพลกิง เฮดโค้ชทีมชาติไทย กล่าวแสดงความยินดี กับขุนพลสำรอง ที่ชนะ สิงคโปร์ 2-0 ใน ศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020” นัดสุดท้าย รอบแรก กลุ่ม A ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ ในวันที่ 18 ธ.ค.64 ยอมรับเลือกไม่ถูก จะส่งใครลงรอบรองฯ

เกมนี้ไทยส่งสำรองลงยกชุด เปิดเกมมาเป็นรองเจ้าภาพ แต่มาได้ประตูจาก เอลเลส ดอเลาะ นาทีที่ 42 กับ ศุภชัย ในช่วงท้ายครึ่งแรก

ไทยชนะ 2-0 คว้าแชมป์กลุ่ม จากการชนะ 4 นัดรวด เก็บ 12 แต้มเต็ม

หลังเกม มาโน กล่าวว่า มีความสุขและภูมิใจกับลูกทีมทุกคน โดยเฉพาะผู้เล่นที่ส่งลงไปเล่นวันนี้ทำผลงานได้ดี ตอนที่รับงานนี้เคยบอกว่าเป็นงานในฝันเพราะรู้ว่าทีมชาติไทยมีผู้เล่นที่ดีมากมาย ซึ่งวันนี้ทุกคนแสดงให้เห็นในสิ่งที่บอกเอาไว้ ช่วงแรกอาจจะติดขัดเล็กน้อยก็เพราะเป็นเกมแรกของทุกคน แต่ไปเรื่อยๆ ทุกอย่างมันก็ดีขึ้น ดังนั้นจึงมีความสุขกับชัยชนะของทีมในเกมนี้มากๆ

มาโน กล่าวต่อไปว่า ถึงไทยจะเก็บ 12 คะแนนเต็มมาได้ แต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับไปเหลือ 0 หมด เพราะเข้าสู่รอบตัดเชือกแล้ว ต้องทำงานหนักต่อไป เพื่อไปสู่เป้าหมาย

ผู้สื่อข่าวถามถึงสาเหตุที่เปลี่ยนผู้เล่นถึง 11 ตำแหน่งในเกมนี้ มาโน่ ตอบว่า มีอยู่ 3 ข้อด้วยกัน ข้อแรกคือทุกคนตรงนี้สมควรได้ลงเล่น เพราะในสนามซ้อมทุกคนช่วยกันผลักดันทีมมาตลอดตั้งแต่วันแรกของการซ้อม การที่ทีมชุดแรกเล่นได้ดีก็ต้องให้เครดิตชุดนี้ที่ซ้อมด้วยกันด้วย นับเป็นทีมที่ดีมากๆ

ข้อสองคือหลังจากนี้จะมี 4 เกมในช่วง 10-11 วัน จึงอยากเห็นฟอร์มของผู้เล่นทุกคนจริงๆ ได้ลงเล่นจริงๆ ในเกมการแข่งขัน มันจะทำให้เห็นภาพของทีมได้ชัดเจนมากขึ้น เพราะอย่างที่รู้ว่าเวลารวมตัว เวลาซ้อมน้อย และอุ่นเครื่องไม่มี เกมนี้จะทำให้รู้ว่าใครทดแทนกันได้บ้าง

และข้อสุดท้ายคือต้องการพักผู้เล่นตัวหลัก อยากให้ได้ซ้อมแบบเต็มๆ ทั้งสัปดาห์ เพราะก่อนหน้านี้ซ้อมไปฟื้นฟูสภาพร่างกายไป ไม่ได้ซ้อมแบบเต็มที่นัก จะเป็นการเตรียมทีมที่ดีสู่รอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศ

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าจากผู้เล่นที่ลงไป มีใครที่สามารถสอดแทรกเป็นตัวจริงได้บ้างนั้น มาโน่ กล่าวว่า ทุกคนที่ลงไปสามารถขึ้นเป็นตัวจริงได้หมด ว่ากันตามตรงแล้วเกมนัดต่อไปยังเลือกไม่ถูกเลยว่าจะจัดใครลงเล่นบ้าง เป็นจุดที่ต้องชื่นชมว่าผู้เล่นชุดนี้ดีมากทุกคนจริงๆ

มาโน่ กล่าวปิดท้ายว่า การเปลี่ยนผู้เล่นยกทีมชนะสิงคโปร์ที่ใช้ตัวหลักลงหมดนั้นไม่ใช่การส่งสารถึงทีมอื่นๆ ถ้ามองในมุมหนึ่งสิงคโปร์อาจจะเหนื่อยจากการลงเล่นหลายนัดก็ได้ แต่ที่ไทยตัดสินใจแบบนี้เพราะ 3 เกมแรกทำไว้ได้ดีแล้ว สุดท้ายก็ต้องไปให้ถึงเป้าหมาย บางทีถ้าไปเจอสิงคโปร์ในรอบชิงชนะเลิศอีกครั้งเกมอาจจะไม่เหมือนวันนี้ก็ได้ เพราะสถานการณ์ ความมุ่งมั่น ไม่เหมือนกัน อย่างน้อยแผนที่วางไว้วันนี้ก็ประสบความสำเร็จ