สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ว่ากระทรวงการต่างประเทศของลิทัวเนียออกแถลงการณ์ ยืนยันการปิดสถานเอกอัครราชทูตประจำกรุงปักกิ่ง ตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา และถอนเจ้าหน้าที่การทูตทั้งหมดกลับประเทศ เนื่องจากรัฐบาลปักกิ่งยังคงปฏิเสธออกเอกสารรับรองฉบับใหม่ ให้แก่นักการทูตของลิทัวเนีย และทิ้งท้ายว่า ลิทัวเนียยังคงพร้อมเจรจากับรัฐบาลปักกิ่ง เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ และเจ้าหน้าที่การทูตของลิทัวเนียจะปฏิบัติภารกิจออนไลน์แทนไปก่อน
อย่างไรก็ตาม นายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ รัฐบาลปักกิ่งยังไม่เคยได้รับคำร้องอย่างเป็นทางการจากลิทัวเนีย เกี่ยวกับการต่ออายุเอกสารของคณะนักการทูตในจีน และวิจารณ์การที่ลิทัวเนียปิดสถานเอกอัครราชทูต และอพยพนักการทูตทั้งหมดกลับออกไป โดยไม่มีการแจ้งให้ทางการจีนทราบล่วงหน้า “เป็นเรื่องตลกสิ้นดี”
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับลิทัวเนียตึงเครียดอย่างหนัก เมื่อรัฐบาลไทเปเปิดสำนักงานการทูตประจำลิทัวเนีย เมื่อกลางเดือนที่แล้ว โดยใช้ชื่อว่า “สำนักงานผู้แทนไต้หวันประจำลิทัวเนีย” ถือเป็นสำนักงานการทูตแห่งแรกของรัฐบาลไทเป ในภูมิภาคยุโรปตะวันออก ที่ใช้คำว่า “ไต้หวัน” แทน “ไทเป” ซึ่งการใช้ชื่อเมืองหลวงของไต้หวันแทนชื่อสำนักงานทางการทูต เป็นสิ่งที่แทบทุกประเทศบนโลกที่มีความสัมพันธ์กับรัฐบาลไทเป ปฏิบัติมาตลอด เพื่อสื่อถึงการยึดมั่นต่อหลักการจีนเดียว และหลีกเลี่ยงการมีปัญหากับรัฐบาลปักกิ่ง
ขณะที่รัฐบาลปักกิ่งเรียกตัว นายเฉิน จื้อเฟย เอกอัครราชทูตจีนประจำลิทัวเนีย ให้เดินทางกลับ เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา และขอให้ลิทัวเนียเรียกตัวเอกอัครราชทูตของตัวเองกลับไปด้วย ซึ่งรัฐบาลวิลนีอุสดำเนินการตามในอีก 1 เดือนต่อมา และจีนประกาศเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับลิทัวเนีย ลงมาอยู่ที่อุปทูตรักษาการ.
เครดิตภาพ : AP