เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ได้มีการออกหมายค้นจากศาลซานตาเฟเคาน์ตี หลังจากอัยการที่ทำคดีพิจารณาการสืบสวนแล้วลงความเห็นว่าผู้ที่ถือปืนซึ่งเป็นอาวุธสังหาร มีสิทธิโดนข้อหาฆาตกรรมเนื่องจากการเสียชีวิตของ ฮาลีนา ฮัตชินส์ ตากล้องของกองถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Rust
หมายค้นดังกล่าวอนุญาตให้เจ้าหน้าที่สืบสวนยึดโทรศัพท์ไอโฟนของอเล็ค บอลด์วิน เพื่อตรวจสอบข้อความ, อีเมลโต้ตอบ, การสื่อสารผ่านเครือข่ายโซเชียลมีเดียต่าง ๆ, กิจกรรมการค้นหาผ่านเบราว์เซอร์และข้อมูลอื่น ๆ ที่เก็บไว้ในอุปกรณ์ดังกล่าว
ตามเอกสารที่เผยแพร่จากศาล เจ้าหน้าที่สืบสวนอเล็กซานเดรีย แฮนค็อก ระบุว่าเธอได้ร้องขอหมายศาลเพื่อสั่งให้ อเล็ค บอลด์วิน ส่งมอบโทรศัพท์มือถือของเขา หลังจากที่เธอขอร้องไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ทนายความของเขากล่าวว่าเธอต้องใช้หมายค้น
ในเอกสารไม่ได้ระบุว่าต้องการสืบหาข้อมูลจากโทรศัพท์เกี่ยวกับเรื่องใดเป็นพิเศษ กระนั้นก็ระบุว่า ผู้ต้องสงสัย, เหยื่อหรือพยานในคดีมักจะได้รับโทรศัพท์ และ/หรือข้อความก่อนหน้า ระหว่างและหลังจากที่เกิดเหตุอาชญากรรม ซึ่งข้อมูลเหล่านั้น (ในกรณีที่มีอยู่จริง) อาจเป็นข้อมูลหรือหลักฐานที่เกี่ยวพันกับการสืบคดี
เอกสารจากศาลยังระบุว่า หลังจากเกิดเหตุปืนลั่นในวันที่ 21 ต.ค. แล้ว “มีการรับ-ส่งอีเมลหลายฉบับและข้อความหลายข้อความที่เกี่ยวข้องกับการผลิตภาพยนตร์เรื่อง Rust ใรระหว่างการให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ”
ตามข้อมูลของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บอลด์วิน เป็นผู้ถือปืนโคลต์ .45 ระหว่างซ้อมฉากในกองถ่ายทำภาพยนตร์แล้วเกิดเหตุปืนลั่น ซึ่งปรากฏภายหลังว่าเป็นปืนบรรจุกระสุนจริง ซึ่งยิงโดนตากล้องสาว ฮาลีนา ฮัตชินส์ และผู้กำกับโจเอล ซูวา จนทำให้ฝ่ายแรกเสียชีวิต ขณะที่ฝ่ายหลังได้รับบาดเจ็บ
แต่ อเล็ค บอลด์วิน เคยให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์เมื่อไม่นานมานี้ว่า เขาไม่ได้เหนี่ยวไกปืนและปฏิเสธความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ยิงปืนที่มีกระสุนจริง เขายังกล่าวว่าไม่รู้เลยว่ามีการบรรจุกระสุนจริงเข้าไปในปืนได้อย่างไร
ฮันนาห์ กูเตียเรซ-รีด ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธและวัตถุระเบิดประจำกองถ่ายให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เธอเป็นผู้บรรจุกระสุนที่เชื่อว่าเป็นกระสุนปลอม 6 นัดใส่ปืนที่ใช้เข้าฉาก ก่อนหน้าเกิดโศกนาฏกรรมดังกล่าว และพบว่ากระสุนนัดที่ 6 มีปัญหาในการบรรจุลงรังเพลิง
เครดิตภาพ : Reuters
