เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ศ.วุฒิคุณ ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ โฆษกกรรมการด้านวิชาการภายใต้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 กล่าวตอนหนึ่งในการเสวนาออนไลน์ “วัคซีนโควิด-19 สำหรับสื่อมวลชน” ว่า ขณะนี้ กทม.มีการระบาดของโควิดอย่างรุนแรง ดังนั้นจึงต้องมีการระดมฉีดววัคซีนให้กลุ่มเสี่ยง คือผู้สูงอายุ และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรค แต่การฉีดโดยเฉพาะผู้สูงอายุบางส่วนยังกังวลใจเรื่องว่าฉีดแล้วจะมีผลข้างเคียง ทำให้อัตราการฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุยังไม่ดีเท่าที่ควร วันนี้ผ่านมาเดือนครึ่งแล้วแต่ใน กทม.ยังฉีดวัคซีนกลุ่มผู้สูงอายุได้  1 ใน 3 หรือ ประมาณ 30% ส่วนผู้ป่วยโรคประจำตัวฉีดได้ 40% ดังนั้นต้องระดมฉีดกลุ่มเหล่านี้ให้ได้ 70% ใน 2-3 สัปดาห์นี้ เพื่อป้องกันการป่วยและการเสียชีวิต หากเป็นไปได้อยากฉีดให้ได้ 100% เพราะฉะนั้นจึงขอให้กลุ่มเหล่านี้ให้ไป รพ.ที่ท่านเคยรักษาอยู่ไปแจ้งความประสงค์ฉีดวัคซีนเลยไม่ต้องไปรอแอพพลิเคชั่นอะไรทั้งนั้น หากมีวัคซีนก็ฉีดเลย ถ้าไม่มีก็จะถูกส่งรายชื่อไปในลิสต์ผู้ฉีดวัคซีนเลย ส่วนกลุ่มอื่นๆ รอไม่นานก็จะมีการเปิดให้ลงทะเบียนใหม่ ทั้งนี้ขอเน้นย้ำเรื่องการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือ และไม่ออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น

ศ.วุฒิคุณ ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้จากการประชุมคณะกรรมการวิชาการเมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา เราจะใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ตอนนี้ให้เหมาะสม และให้ครอบคลุมเชื้อกลายพันธุ์เดลต้า (อินเดีย) ให้ได้ โดยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้สูง ป้องกันการป่วย การตายให้ได้ โดยฉีดวัคซีนเข็ม 1 เป็นซิโนแวค รอ 3-4 สัปดาห์แล้วฉีดแอสตราฯ ส่วนใคร ฉีด 2 เข็มแล้วขอให้รออีกสักระยะประมาณ 1 เดือนแล้วไปฉีดกระตุ้นด้วยแอสตราฯ ขอให้ใจเย็นๆ เพราะเราต้องฉีดให้บุคลากรสาธารณสุขด่านหน้าก่อน

“วันนี้มีข้อโต้แย้งของสื่อมวลชนที่จับประเด็นมาโจมตีการทำงาน ซึ่งผมไม่ชอบเลย ผมว่าผู้ที่กำลังบิดเบือนข้อมูลเหล่านี้บาปกรรมมาก เพราะกำลังทำให้สังคมสับสนและไม่ยอมทำตามเรื่องที่ราชการจะควบคุมโรค การที่ราชการจะควบคุมโรคให้ได้ มีอะไรจะต้องใช้ทุกอย่าง เรากำลังจะทำสิ่งดีๆ ก็ไปตัดถ้อยคำบางตอนของ ดร.ซอมยา พูดซึ่งพูดอยู่ 2 เรื่อง ก็ไปเอามาเรื่องเดียวทำให้เกิดความสับสน ซึ่ง ดร.ซอมยา บอกว่ากรุณาอย่าไปใช้วัคซีนสลับกันโดยการตัดสินใจของบุคคล แต่สาธารณสุขของประเทศทำได้ แต่คำว่าสาธารณสุขของประเทศทำได้นั้นกลับถูกตัดทิ้ง ผมถามว่าทำทำไมบาปกรรม ตกนรกนะ คนตายไปเยอะมากคนท่านอย่าทำเพราะบาปมากผมไม่ได้แช่งท่านแต่มันบาปมากจริงๆ” ศ.วุฒิคุณ ดร.นพ.พรเทพ กล่าว

ศ.วุฒิคุณ ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อว่า ที่ ดร.ซอมยา พูดเช่นนี้เพราะในอินเดียเกิดเหตุการณ์ประชาชนมิกซ์วัคซีนกันเอง ซึ่งจะดีหรือไม่ดีก็ไม่รู้ แต่ในการประชุมเมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา ดร.เรณู การ์ด ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคไม่ติดต่อ องค์การอนามัยโลก ประจำประเทศไทย ให้ความเห็นว่าทำได้ถ้ามีผลวิจัยยืนยัน ซึ่งประเทศไทยก็มีผลวิจัยยืนยันชัดเจน ทั้งการวิจัย ที่จัดทำโดย ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และที่เชียงราย เป็นต้น ดังนั้นการตัดตอนข้อความมาทำให้คนสับสนนั้นก็ขอให้หยุดได้แล้ว องค์การอนามัยโลก สำนักงานใหญ่ที่ที่เจนีวา ระบุว่าบอกว่าทำได้ถ้าเป็นเรื่องของรัฐบาลสาธารณสุข ซึ่งไทยก็มีการทำวิจัยรองรับชัดเจน.