นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าผลการดำเนินการขุดลอกพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำ แม่น้ำวัง ต.บุญนาคพัฒนา อ.เมือง จ.ลำปาง ปัจจุบันมีความก้าวหน้า 44.88% ซึ่งสำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 7 เปิดหน่วยปฏิบัติงานขุดลอกแม่น้ำวัง จ.ลำปาง ใช้เครื่องจักรเป็นรถขุด ชม.8 และ รถขุด ชม.11 เริ่มขุดลอก ตั้งแต่ กม. 268+150 ถึง กม. 265+550 ระยะทาง 2,550 เมตร ขุดลอกร่องน้ำให้ได้ความกว้าง 40-50 เมตร ระดับก้นร่องลึกประมาณ 242.00-244.00 เมตร (จากระดับทะเลปานกลาง) ปริมาณวัสดุขุดลอก 60,000 ลูกบาศก์เมตร ระยะเวลาดำเนินการ 100 วัน

เมื่อแล้วเสร็จจะช่วยแก้ไขความเดือดร้อนจากความตื้นเขินของแม่น้ำ จากตะกอนทรายและวัชพืช ทำให้การกักเก็บน้ำเพื่อใช้ในการเกษตรในฤดูแล้งเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนที่ใช้น้ำในการทำเกษตรกรรม อุปโภคและบริโภค แก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง โดยมีพื้นที่ที่ได้รับประโยชน์จากการขุดลอกแม่น้ำวัง ได้แก่ โรงสูบน้ำพลังงานไฟฟ้า จำนวน 1 โรง พื้นที่ใช้น้ำเพื่อการเกษตรกรรม ประมาณ 1,500 ไร่ และใช้น้ำเพื่ออุปโภคและบริโภค จำนวน ประมาณ 800 ครัวเรือน คาดแล้วเสร็จตามแผน เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ได้มีแหล่งกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้งและตลอดทั้งปี

นายวิทยา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้สำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 7 ได้มีแผนดำเนินการการขุดลอกและบำรุงรักษาร่องน้ำภายในประเทศ ในพื้นที่ภาคเหนืออีก 5 แห่ง ได้แก่ 1.แม่น้ำกก อ.เมือง จ.เชียงราย 2.แม่น้ำลาว อ.แม่สรวย จ.เชียงราย 3.แม่น้ำสา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ 4.แม่น้ำจาง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง และ 5.แม่น้ำยม อ.สูงเม่น จ.แพร่ ปัจจุบันขุดลอกได้ปริมาณ 708,795 ลูกบาศก์เมตร จากแผน 900,000 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นผลงาน 78.75% ถือได้ว่าผลงานอยู่ในระดับเป็นที่น่าพอใจ ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาให้กับประชาชนในพื้นที่ได้

ทั้งนี้ กรมเจ้าท่าได้ให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูแม่น้ำลำคลองธรรมชาติ ที่เป็นต้นน้ำของแม่น้ำสายสำคัญของประเทศ โดยจัดทำแผนงานเพื่อขอรับงบประมาณดำเนินการอย่างต่อเนื่อง พร้อมสนับสนุนและร่วมบูรณาการหน่วยงานในพื้นที่ เร่งเดินหน้าภารกิจขุดลอกให้แล้วเสร็จตามแผนเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศแม่น้ำให้เป็นแหล่งน้ำของชุมชนได้อย่างยั่งยืนต่อไป รวมทั้งเตรียมความพร้อมในเชิงป้องกัน เพื่อรับสถานการณ์ช่วงฤดูฝนสอดคล้องกับความต้องการในการใช้น้ำเพื่ออุปโภคบริโภค การเกษตร และการรักษาสภาพแวดล้อมทางน้ำ ตามนโยบายรัฐบาลและมาตรการของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม