นายเอียน ลิม หัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภาคสนาม ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ ผู้นำระดับโลกด้านระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ เปิดเผยว่า ในปี 64 องค์กรต่างๆ มีการ การเปลี่ยนแปลงวิธีทำงาน นำดิจิทัลมาใช้งานอย่างต่อเนื่อง หลังจากโรคโควิด-19 ระบาด จนส่งผลทั่วโลก ส่งผลให้ อาชญากรไซเบอร์อาศัยช่องโหว่ และใช้วิธีการโจมตีที่มีความซับซ้อน ขยายวงกว้าง และมีความถี่มากขึ้น ซึ่งจากรายงานภัยคุกคามจากมัลแวร์เรียกค่าไถ่ของ ยูนิท 42 พบว่าค่าไถ่โดยเฉลี่ยที่แต่ละองค์กรที่ตกเป็นเหยื่อต้องจ่ายช่วงครึ่งแรกของปี 64 อยู่ที่ราว 570,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 18.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 82% บ่งชี้ว่าอาชญากรไซเบอร์ยังคงสร้างผลกำไร และถือเป็นภัยคุกคามไซเบอร์ที่สำคัญ
สำหรับแนวโน้มด้านความปลอดภัยไซเบอร์ที่จะส่งผลต่อโลกดิจิทัลในปีหน้า ได้คาดการณ์ อยู่ 5 ข้อ คือ 1 ความนิยมของ บิตคอยน์ ทำให้อาชญากรไซเบอร์มีเงินทุนและทรัพยากรมากยิ่งขึ้นเพื่อใช้โจมตีโครงสร้างที่สำคัญไม่เพียง ภาคธุรกิจเท่านั้น รวมคงบริการแก่สาธารณชน ด้วย 2. เส้นคั่นระหว่างโลกจริงกับโลกดิจิทัลเริ่มไม่ชัดเจน อาชญากรมีพื้นที่เป้าหมายให้เลือกมากยิ่งขึ้น 3. เศรษฐกิจยุคพึ่งพา เอพีไอ จะนำไปสู่การฉ้อโกงและ การแสวงหาประโยชน์ทางดิจิทัลในรูปแบบใหม่ เช่น การขโมยตัวตน และแอบเก็บข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
4. อาชญากรไซเบอร์จะมุ่งเป้าไปที่โครงสร้างระบบดิจิทัลที่มีความสำคัญของประเทศ จึงต้องเตรียมรับมือกับ การโจมตีขนาดใหญ่และหนักหน่วงยิ่งขึ้นในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า และ 5. การทำงานแบบไร้พรมแดน หรือทำงาน จากที่ใดก็ได้ ทำให้อาชญากรกำลังเปลี่ยนเป้าหมายจากการโจมตีสำนักงาน บริษัทไปที่การโจมตีบ้านของพนักงาน ที่ต้องทำงานที่บ้านมากขึ้น ผ่านอุปกรณ์ต่างๆ เช่น อุปกรณ์การประชุมผ่านวิดีโอ โทรศัพท์ระบบไอพี เครื่องพิมพ์ ฯลฯ จึงต้องหาโซลูชั่นป้องกันที่เหมาะสม
ด้านนายธัชพล โปษยานนท์ ผู้อำนวยการประจำประเทศไทยและภูมิภาคอินโดไชน่า พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์ กล่าวว่า สำหรับประเทศไทย ใน 3 กลุ่มอุตสาหกรรม คือ สุขภาพ การเงิน และสาธารณูปโภค ก็ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก ของพวกอาชญากรไซเบอร์ องค์กรต่างๆ จึงต้องมีกลยุทธ์การป้องกันและตอบโต้ภัยคุกคามที่เข้มงวดจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ด้วยการจัดหาโซลูชั่นต่างๆที่เหมาะกับองค์กรเพื่อใช้ป้องกัน โดยคาดการณ์ว่าในปีหน้า การลงทุนด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ ในไทยจะมีการเติบโตมากกว่าเท่าตัว.
