สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ว่าองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (ดับเบิลยูเอ็มโอ) ซึ่งเป็นทบวงการชำนัญพิเศษด้านสภาพอากาศของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผยแพร่รายงานว่า มีความเป็นไปได้มากยิ่งขึ้นที่ภูมิภาคอาร์กติกจะเผชิญและได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่จะทวีความรุนแรงและแปรปรวน โดยหนึ่งในแนวโน้มที่ชัดเจน คือการเกิดไฟป่าที่ภูมิภาคทางเหนือของรัสเซีย และภูมิภาคทุนดราในอาร์กติก
ทั้งนี้ ดับเบิลยูเอ็มโอยืนยันข้อมูลเกี่ยวกับอุณหภูมิสูงที่สุดในภูมิภาคอาร์กติกประจำปีที่แล้ว คือที่เมืองเวอร์คฮายันสก์ ในภาคเหนือของรัสเซีย วัดได้ 38 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2563 โดยเมืองเวอร์คฮายันสก์ตั้งยู่ห่างจากวงกลมอาร์กติก หรือวงกลมละติจูดเหนือสุดของโลก ประมาณ 115 กิโลเมตร
ขณะเดียวกัน ปี 2563 เป็นปีที่อุณหภูมิเฉลี่ยของทวีปแอฟริการ้อนสุดเป็นอันดับสาม โดยเพิ่มขึ้น 0.86 องศาเซลเซียส จากค่าเฉลี่ยในรอบ 3 ทศวรรษล่าสุด แม้ยังถือว่าอุ่นขึ้นช้ากว่าพื้นที่ละติจูดสูงแห่งอื่น แต่ยังคงก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรงในทางสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะกับธารน้ำแข็งในทวีปแอฟริกา
หากสถานการณ์ยังคงดำเนินเช่นนี้ต่อไป ธารน้ำแข็งในภาคตะวันออกของทวีปแอฟริกา ซึ่งเป็นบริเวณเดียวในภูมิภาคที่ยังคงมีธารน้ำแข็ง จะละลายจนหมด “ในอีกไม่นานนี้” เนื่องจากอุณหภูมิโลกที่เพิ่มสูงขึ้น โดยดับเบิลยูเอ็มโอคาดการณ์ ธารน้ำแข็งบนยอดเขาคิลิมันจาโร ในแทนซาเนีย ภูเขาเคนยา ในเคนยา และเทือกเขารเวนโซรี ที่อยู่ระหว่างยูกันดากับสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (ดีอาร์คองโก) จะละลายจนหมดสิ้น ภายในช่วงทศวรรษเริ่มตั้งแต่ปี 2583.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES