เมอร์เซเดส ทีมผู้สร้างยักษ์ใหญ่ในศึกรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก ตกเป็นข่าวว่ากำลังเตรียมเดินหน้ายื่นอุทธรณ์ผลการตัดสินในสนามสุดท้ายของศึก เอฟ วัน ซีซั่นนี้ ในศึก “อาบูดาบี กรังด์ปรีซ์” ที่สนามยาส มารินา เซอร์กิต ในกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลัง ลูอิส แฮมิลตัน นักขับของทีมเจ้าของแชมป์โลก 7 สมัยจากอังกฤษ โดน แมกซ์ แฟร์สตัปเพน นักซิ่งชาวเนเธอร์แลนด์ของทีมเรด บูลล์ ไล่แซงในรอบสุดท้าย ปาดหน้าคว้าแชมป์โลกฤดูกาลนี้ไปครองอย่างสุดดราม่า แม้คำประท้วง 2 ครั้งก่อนหน้านี้จะไม่เป็นผลก็ตาม

ในการแข่งขันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แฟร์สตัปเพน ออกสตาร์ตในตำแหน่งโพลโพซิชัน แต่โดน แฮมิลตัน ซึ่งมีคะแนนสะสม 369.5 คะแนนเท่ากัน ก่อนลงซิ่งในเรซสุดท้ายนั้น ชิงจังหวะแซงขึ้นเป็นผู้นำได้ตั้งแต่รอบแรก และนำโด่งมาตลอดจนกระทั่งทำท่าจะคว้าแชมป์โลกไปครองเป็นสมัยที่ 8 ได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม เกิดจุดเปลี่ยนสำคัญขึ้นในรอบที่ 53 เมื่อรถของ นิโคลัส ลาติฟี นักขับจาก วิลเลียมส์ ประสบอุบัติเหตุจนต้องเรียกเซฟตีคาร์ออกมา และทำให้รถทุกคันต้องกลับมาเริ่มแข่งขันกันใหม่ในรอบที่ 58 หรือ รอบสุดท้าย ซึ่งกลายเป็นโอกาสให้ “แมดแม็กซ์” อาศัยยางที่สดกว่าไล่แซง แฮมิลตัน เข้าเส้นชัยเป็นคันแรกได้สำเร็จ พร้อมแซงคว้าแชมป์โลกไปครองเป็นครั้งแรกในชีวิตได้อย่างเหลือเชื่อ

หลังจบการแข่งขัน เมอร์เซเดส ได้ทำการยื่นประท้วงการตัดสินของ ไมเคิล มาซี ผู้อำนวยการการแข่งขัน หลังเจ้าตัวเคยบอกหลังเกิดอุบัติเหตุว่าห้ามมีการแซงรถอันดับท้าย ๆ ที่ขวางหน้าอยู่ระหว่างขับตามหลังเซฟตีคาร์ แต่ท้ายที่สุดกลับเปลี่ยนใจให้นักขับสามารถแซงรถที่ขวางอยู่เพื่อเข้าสู่อันดับที่แท้จริงก่อนเกิดอุบัติเหตุได้ ส่งผลให้ แฟร์สตัปเพน ที่ก่อนหน้านั้นมีรถ 5 คันขวางหน้าอยู่ สามารถขยับขึ้นมาจี้ แฮมิลตัน และไล่แซงได้สำเร็จหลังออกสตาร์ตกันอีกครั้งในรอบสุดท้ายได้สำเร็จ โดย เมอร์เซเดส ได้ยื่นประท้วงถึง 2 รอบในคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ถูก เอฟ วัน ปฏิเสธทั้ง 2 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงต้องการยื่นอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าวอีกครั้ง โดยเตรียมยื่นเรื่องไปยังสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ หรือ “เอฟไอเอ” ให้พิจารณาคำตัดสินดังกล่าวอีกครั้ง หรือหากยังไม่เป็นผล ก็อาจเดินหน้ายื่นร้องเรียนไปถึงศาลอนุญาโตตุลาการด้านกีฬา หรือ “ซีเอเอส” ในขั้นตอนต่อไป

เครดิตภาพ : AP