สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ว่า ชาวอาร์เจนตินาหลายพันคนรวมตัวเดินขบวนในกรุงบัวโนสไอเรส เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เรียกร้องรัฐบาลของประธานาธิบดีอัลแบร์โต เฟอร์นันเดซ ล้มเลิกแผนการลงนามปรับโครงสร้างหนี้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( ไอเอ็มเอฟ )


สำหรับข้อตกลงปัจจุบันระหว่างอาร์เจนตินากับไอเอ็มเอฟ เป็นการลงนามเมื่อปี 2561 โดยผู้นำในเวลานั้น คือ ประธานาธิบดีเมาริซิโอ มาครี ด้วยวงเงิน 57,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 1.9 ล้านล้านบาท ) สูงสุดในประวัติศาสตร์ของไอเอ็มเอฟ ที่เคยอนุมัติให้รัฐบาลของประเทศหนึ่งกู้ยืม


ปัจจุบัน รัฐบาลอาร์เจนตินาอยู่ระหว่างการเจรจากับไอเอ็มเอฟ ในการหาทางชำระหนี้ประมาณ 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 1.47 ล้านล้านบาท ) โดยข้อตกลงเมื่อ 3 ปีที่แล้วระบุว่า รัฐบาลอาร์เจนตินาต้องชำระเงินกู้ 3 งวด ตามจำนวนที่ไอเอ็มเอฟกำหนด ระหว่างปี 2565-2567

หญิงชาวอาร์เจนตินาถือแผ่นป้ายต่อต้านไอเอ็มเอฟ ระหว่างร่วมเดินขบวนประท้วง ในกรุงบัวโนสไอเรส


ทั้งนี้ ข้อตกลงเมื่อ 3 ปีที่แล้วระบุว่า รัฐบาลอาร์เจนตินาต้องชำระเงินกู้ 3 งวด ตามจำนวนที่ไอเอ็มเอฟกำหนด ระหว่างปี 2565-2567 อย่างไรก็ตาม มีรายงานออกมาว่า เฟอร์นันเดซซซึ่งเข้ามาบริหารประเทศ เมื่อปี 2563 ต้องแก้ไขเงื่อนไขบางข้อ เกี่ยวกับการจ่ายคืนเงินกู้ส่วนที่เหลือ และกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการรวมหนี้ทั้งสามงวดเป็นก้อนเดียว แล้วกำหนดเงื่อนไขการชำระใหม่


กระแสข่าวที่เกิดขึ้นสร้างความไม่พอใจอย่างหนักให้กับประชาชน ซึ่งมองไปในทางเดียวกันว่า หากเป็นไปตามนั้นจริง รัฐบาลจะออกมาตรการรัดเข็มขัดมาบังคับใช้ ชาวอาร์เจนตินาจำนวนมากจะยิ่งได้รับผลกระทบ เพราะค่าครองชีพจะยิ่งพุ่งสูง และอัตราเงินเฟ้อ ณ เวลานี้ พุ่งทะยานไปมากกว่า 50% แล้ว.

เครดิตภาพ : AP