เมื่อวันที่ 15 ก.ค. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีความรุนแรงและกระจายไปหลายพื้นที่ ส่งผลให้ทั่วประเทศมีประชาชนที่ประสงค์จะขอรับบริการตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้โรงพยาบาลเอกชน หรือคลินิกบางแห่ง เกิดการขาดแคลนทรัพยากรในการตรวจหาสารพันธุกรรมของไวรัสโควิด-19 อีกทั้ง กฎหมายกำหนดให้สถานพยาบาลที่ตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 จะต้องดำเนินการประสานหรือรับเข้ารักษาในสถานพยาบาลทันที แต่ด้วยการที่เตียงของแต่ละสถานพยาบาลมีจำนวนจำกัดทำให้ไม่สามารถให้บริการรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทุกรายได้
ดังนั้น สบส.จึงได้ออกประกาศกรม สบส.เรื่อง “แนวทางการดูแลรักษา ป้องกัน ควบคุม และส่งต่อผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ของสถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืนและสถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน พ.ศ. 2564” ฉบับใหม่ ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 9 ก ค.2564 โดยกำหนดให้ในกรณีที่โรงพยาบาลเอกชน หรือคลินิก ตรวจพบผู้ติดโรคโควิด-19 ที่มีอาการอยู่ในเกณฑ์สีเขียว ให้ดำเนินการแนะนำ และดูแลให้ผู้ป่วยรายดังกล่าวเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาล ณ ที่พำนักของผู้ป่วย (Home Isolation)
โดยสถานพยาบาลจะต้องให้การดูแล ส่งเครื่องวัดไข้ วัดออกซิเจนในเลือด ยา อาหาร วิดีโอคอลติดตามอาการของผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง และหากพบว่าผู้ป่วยมีอาการทรุดลงให้ประสานงานส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลเพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตของผู้ป่วย ดังนั้น จึงขอให้ผู้ประกอบกิจการโรงพยาบาลเอกชน และคลินิก คลายกังวลในปัญหาเตียงในสถานพยาบาลและเดินหน้าตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงอย่างเต็มกำลัง เพื่อจำกัดการระบาดของโรคโควิด-19 ให้เร็วที่สุด
ด้าน ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดี สบส.กล่าวว่า สำหรับเกณฑ์ของผู้ป่วยที่สามารถจะแยกกักตัว ณ ที่พำนักของผู้ป่วยได้นั้น ผู้ป่วยจะต้องไม่แสดงอาการ มีอายุน้อยกว่า 60 ปี สุขภาพร่างกายแข็งแรง อยู่คนเดียวหรือมีผู้ร่วมที่พักไม่เกิน 1 คน ไม่มีภาวะอ้วน โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคไตเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ หรือโรคอื่นๆ ตามดุลพินิจของแพทย์ และผู้ป่วยจะต้องลงนามในหนังสือแสดงความยินยอม/เจตนาในการแยกกักตัวที่บ้าน แต่สำหรับผู้ป่วยที่อยู่ในอาการเกณฑ์สีเหลือง สีแดง หรือผู้ป่วยที่ไม่สามารถรักษา ณ ที่พำนักของผู้ป่วยได้ หากอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ขอให้ทางสถานพยาบาลเอกชนประสานศูนย์บริการสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร แต่หากอยู่ในเขตจังหวัดอื่นให้ประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หรือสายด่วนสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 1330 หรือหน่วยงานอื่นตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดโดยทันที.