สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ว่านายฌ็อง-มิเชล บลองเคร์ รมว.ศึกษาธิการของฝรั่งเศส กล่าวว่า รัฐบาลปารีสไม่มีนโยบาย “บอยคอตทางการทูต” ต่อมหกรรมโอลิมปิกฤดูหนาว ที่กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน จะเป็นเจ้าภาพในเดือน ก.พ.ที่จะถึงนี้ เนื่องจาก “โลกของกีฬา” กับ “โลกของการเมือง” นั้น “มีความแตกต่างกัน”
บอลเคร์กล่าวต่อไปว่า แม้ฝรั่งเศสและจีนมีจุดยืนด้านนโยบายสิทธิมนุษยชนที่แตกต่างกัน แต่นางโรซานา มาราซิเนนู รมว.กีฬา จะเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว ในฐานะผู้แทนของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ส่วนนักกีฬาของฝรั่งเศสเข้าร่วมการแข่งขันตามแผนการ
ท่าทีดังกล่าวของฝรั่งเศส ซึ่งเตรียมเป็นเจ้าภาพการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน ที่กรุงปารีส ในปี 2567 เกิดขึ้นในเวลาเดียวกับที่สหรัฐ สหราชอาณาจักร แคนาดา และออสเตรเลีย ประกาศไม่ส่งตัวแทนรัฐบาลระดับใดก็ตาม เข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งนี้ โดยอ้างเหตุผลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของจีน ที่มี “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” และการกดขี่ข่มเหงกลุ่มชาติพันธุ์อุยกูร์
ขณะที่นายหวัง เหวินปิน และนายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวไปในทางเดียวกันว่า ทั้งสี่ประเทศยังคง “เล่นการเมืองกับเรื่องกีฬา” ด้วยเหตุนี้ ทุกประเทศดังกล่าว “ต้องยอมรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมา” โดยยังคงไม่ขยายความ ด้านกระทรวงพาณิชย์ของจีนออกแถลงการณ์ ประณามการที่สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐผ่านกฎหมาย ว่าด้วยการระงับนำเข้าสินค้าอย่างจำเพาะเจาะจงจากซินเจียง.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES