จัดเป็นอีกหนึ่งสาวสวยที่หลายคนชื่นชมอย่างมากสำหรับสาว ได๋ ไดอาน่า จงจินตนาการ ที่เดินหน้าช่วยเหลือสังคมด้วยการเปิดเพจเราต้องรอด เพื่อช่วยประสานหาเตียงให้คนป่วยโควิดและเคสเร่งด่วนต่างๆ ทำให้ประชาชนได้รับการรักษาอย่างทันเวลาและลดอัตราการเสียชีวิตลงได้อย่างมากมาย ล่าสุดสาวได๋ไปร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์อาเซียนแห่งกรุงเทพมหานคร ซึ่งภายหลังจบงานได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องโควิดสายพันธุ์ใหม่ รวมถึงการปิดเพจเราต้องรอด

ได๋ เผยว่า “เรื่องโควิดสายพันธุ์ใหม่ ปกติจะตอบคำถามแต่วงการบันเทิง(ยิ้ม) วันนี้เป็นด้านสาธารณสุข ก็จริงๆ ล่าสุดวันนี้ ก็เพิ่งแจ้งว่ามีเข้ามาอีก 2 ราย คือจริงๆ ต้องแจ้งกับทุกคนแบบนี้นะคะ ว่าที่ผ่านมา เคสที่เรารับมา ไม่ใช่ว่าเราไม่เคยเจอ รายที่ติดซ้ำ คือเป็นแล้วเป็นอีก ถ้าจากการอ่านข้อมูล เท่าที่รวบรวมมาตลอด 7 วันที่ผ่านมา ก็ต้องยอมรับว่าเรายังไม่มีข้อมูลร้อยเปอร์เซ็นต์แน่ชัด ในการที่จะบอกว่าตกลงโอไมครอน มันเป็นยังไงกันเพราะในแต่ละภูมิภาค แต่ละประเทศ ปัจจัยต่างๆ ไม่เหมือนกัน ปริมาณของประชากรที่ทำการฉีดวัคซีนแล้ว หรือยี่ห้อของวัคซีน ก็ไม่เหมือนกัน แล้วก็ยังมีปัจจัยอย่างอื่นอีก เพราะฉะนั้นเราไม่สามารถที่จะนำข้อมูลของประเทศนี้ มาเหมารวมได้ว่า ประเทศเราก็จะเป็นแบบนั้นจริงๆ ในความเห็นส่วนตัวนะคะ ก็คือว่าสมมุติว่าเป็นบ้านเรา แล้วเรามีลูก เราก็ต้องปกป้องลูกเราให้ปลอดภัยที่สุดก่อน อะไรแบบนี้ค่ะ”

“ทุกวันนี้ศูนย์พักคอย “เราต้องรอด” ของเรา ก็ยังคงมีอยู่นะคะ เพราะถึงแม้ว่าปัจจุบันนี้ หน่วยงานต่างๆ จะสามารถรับมือกับตัวเลขผู้ป่วย ที่ตอนนี้ลดลงเยอะมาก อันนี้ต้องยอมรับว่ามาตรการต่างๆ ดีมาก เพราะว่ารับมือได้ดีมาก แต่ก็ยังคงมีอีกบางส่วน ที่เป็นต่างด้าว ที่ไม่มีเงิน มีสิทธิจริงๆ แล้วก็อาจจะเป็นคนที่ไร้สัญชาติ หรือว่าตกสำรวจ อันนี้เราก็ยังคงเปิดศูนย์อยู่ เพื่อจะรองรับการช่วยเหลือค่ะ และพูดตามสถานการณ์จริง จากการที่รับเคสทางอินบ็อกซ์นะคะ จริงๆ เมื่อ 3 วันก่อนหน้านี้ สถานการณ์แบบเงียบกริบเลยนะคะ ไม่มีใครส่งอะไรมาเลย แล้วเราก็คิดว่าเฮ้ยชีวิตเรากลับมาเป็นปกติได้แล้ว เราไปสปา เราไปเที่ยวดีไหม แล้วก็เพิ่งจะ 3 วันนี้ค่ะ ที่เคสเริ่มกลับมา คือก่อนหน้านี้เราจะพบว่าการแพร่กระจายเนี่ย มันจะเป็นเหมือนกับว่า หนึ่งคนเป็นแล้วคนอื่นไม่เป็น แต่อันนี้มันจะเป็นแบบว่า พอไปทานข้าวด้วยกัน ก็เป็นทั้งแก๊ง เวลามาก็จะแบบยกแก๊งเลย”

ได๋ เล่าต่อว่า “อันนี้แค่จากการเก็บข้อมูลในอินบ็อกซ์เท่านั้น เพราะฉะนั้นจริงๆ อยากจะบอกทุกคนว่า อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจไปค่ะ ไม่ว่าใครจะบอกว่า เชื้อมันเพร่น้อยลง หรือว่าความรุนแรงของมันจะน้อยลง แต่ต้องบอกแบบนี้ว่า ในกรณีที่คุณฉีดวัคซีนแล้ว มันอาจจะสามารถป้องกันอาการที่มันหนักได้ แต่อย่าลืมว่าประชากรในประเทศไทยยังมีอีกเยอะมาก ที่เป็นเด็ก แล้วเป็นกลุ่มเปราะบางที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ตรงนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง ถ้าเด็กเล็กติด แล้วผู้ใหญ่ไม่ติด เราจะทำการแยกตัวยังไง ก็อยากให้ทุกคนระมัดระวัง แล้วก็ตั้งการ์ดให้สูงที่สุด”

“ถามใจนะ ว่าอยากปิดไหม ก็อยากพักผ่อนอยู่แล้วนะคะ แต่ถ้าสมมติว่ายังมีคนต้องการความช่วยเหลือ แล้วเรายังช่วยเขาได้ เราก็คงยืนหยัดที่จะช่วยต่อค่ะ แต่ก็ต้องย้ำว่าจริงๆ แล้วเนี่ย มาตรการต่างๆ ของภาครัฐตอนนี้ ค่อนข้างจะครอบคลุมได้แล้วค่ะ เพียงแต่ว่ามีบางเคสที่มันเป็นเร่งด่วนจริงๆ ที่เราอาจจะต้องยื่นมาเข้าไปช่วย เราเองก็หลับสนิทขึ้นค่ะ เพราะต้องบอกว่าความรุนแรงของสถานการณ์ มันน้อยลงกว่าเดิมเยอะนะคะ ถ้าเราลองมองย้อนไป ตั้งแต่ประมาณเดือน ก.ค-ส.ค. ช่วงนั้นเป็นช่วงที่สถานการณ์ในประเทศไทยคุมไม่อยู่จริงๆ เพราะเป็นช่วงพีกและมีผู้เสียชีวิตเยอะมาก แต่ปัจจุบันนี้ก็ต้องยอมรับว่า อาการหนักหรือว่าอาการรุนแรงน้องลงเยอะมาก”

“เรื่องคนไดเรกต์ขอซื้อชุดชั้นใน คือเขาโดนจับแล้วใช่ไหม ซึ่งนี่ไม่รู้เรื่องเลย เพราะมัวแต่รับเคส คนที่ส่งมาบอกคือ จ๊ะ นงผณี บอกว่าพี่ๆ เขาจับได้แล้วนะ คือเป็นคนเดียวกันกับของแตงโมด้วยค่ะ เราก็ไม่ได้ว่างไปดูเลยค่ะ แต่เขาก็มีเปลี่ยนไอดี แล้วก็ส่งมาหาเรื่อยๆ นะคะ เขาเรียกให้ไปเหมือนกัน เหมือนไปเพิ่มสำนวน แต่เราก็ยังไม่ว่าง เลยมีความรู้สึกว่า ถ้าเขาได้ชดใช้ความผิดแล้ว เราก็ปล่อยเขาไป อโหสิกรรมต่อกันดีกว่าค่ะ โลกนี้มันมีเรื่องให้น่าเครียดอีกเยอะค่ะ ยังไงอยู่ในคุกแล้ว ครั้งหน้าออกมาไม่ต้องทำแล้วเนอะ (หัวเราะ) ส่วนคนทักมาใหม่ยังไม่มี ถ้ามีเดี๋ยวจะแจ้งนะ ยังไงทุกคนดูตัวเองดีๆ นะคะ ไม่อยากต้อนรับใครเข้ามาดูแลนะคะ”

ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม ladydna