สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ว่านายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ นำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ 16 คน สาบานตนต่อประธานาธิบดีฟรังก์ วอลเทอร์-ชไตน์ไมเออร์ ที่ทำเนียบเบลเลวู ในกรุงเบอร์ลิน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังสภานิติบัญญัติรับรองโชลซ์ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 9 นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง และถือเป็น “ผู้นำหน้าใหม่” คนแรกในรอบ 16 ปี ถือเป็นการสิ้นสุด “ยุคแมร์เคิล” ของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ซึ่งอยู่ในตำแหน่งยาวนานต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2548 และประกาศวางมือทางการเมืองก่อนการเลือกตั้ง เมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา
สำหรับตำแหน่งที่น่าจับตา คือนายโรแบร์ต ฮาเบค ประธานร่วมของพรรคกรีน ในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ควบการเป็น รมว.เศรษฐกิจและสภาพอากาศ นางอันนาเลนา แบร์บ็อค ซึ่งร่วมเป็นหัวหน้าพรรคกรีนกับฮาเบค รับตำแหน่ง รมว.การต่างประเทศ และสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักการเมืองหญิงคนแรกของเยอรมนีที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าว ทั้งนี้ แบร์บ็อคมีจุดยืนที่ “ค่อนข้างแข็งกร้าว” ต่อจีนและรัสเซีย อีกทั้งยังต่อต้านโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาตินอร์ดสตรีท ทู
ด้านนายคริสเตียน ลินด์เนอร์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยเสรี (เอฟดีพี) ซึ่งมีนโยบายเป็นมิตรกับภาคเอกชนของเยอรมนี รับตำแหน่ง รมว.การคลัง และนางแนนซี เฟเซอร์ รับตำแหน่ง รมว.มหาดไทย โดยถือเป็นนักการเมืองหญิงคนแรกของเยอรมนีที่รับหน้าที่นี้เช่นกัน
ส่วนรัฐมนตรีซึ่งตอนนี้ถือเป็น “ทัพหน้า” ของรัฐบาลแทบทุกประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั่นคือ รมว.สาธารณสุข ซึ่งผู้ดำรงตำแหน่งคนใหม่ คือ นพ.คาร์ล เลาเทอร์บัค ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาชื่อดังของเยอรมนี ขณะที่กลุ่มการแพทย์ทุกแห่งของเยอรมนีมีสัญญาณบวกต่อการแต่งตั้ง นพ.เลาเทอร์บัค และเรียกร้องการเพิ่มสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศ ที่ตอนนี้มีผู้รับวัคซีนครบประมาณ 69% เท่านั้น.
เครดิตภาพ : AP