สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ว่า นพ.เทดรอส แอดนาฮอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) กล่าวเมื่อวันพุธ เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ โอไมครอน ว่านับตั้งแต่มีการจัดเข้ากลุ่ม “สายพันธุ์น่าวิตกกังวล” อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา ปัจจุบันมีรายงานการพบผู้ติดเชื้อในอย่างน้อย 57 ประเทศ และในรอบสัปดาห์ล่าสุดจนถึงวันที่ 5 ธ.ค. จำนวนผู้ป่วยในแอฟริกาใต้เพิ่มมากกว่า 62,000 คน
ขณะที่สถิติผู้ป่วยภายในระยะเวลาเดียวกัน ที่เอสวาตินี ซิมบับเว โมซัมบิก นามิเบีย และเลโซโท “เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ” ซึ่งอัตราการฉีดวัคซีนในกลุ่มประเทศเหล่านี้ที่ยังต่ำ อาจเป็นปัจจัยสำคัญ
นอกจากนี้ ผลการศึกษาเบื้องต้นซึ่งบ่งชี้ว่า การกลายพันธุ์ของเชื้อโอไมครอนอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของกลไกสร้างภูมิคุ้มกัน ทั้งที่กระตุ้นด้วยวัคซีนและเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ในกรณีที่เคยติดเชื้อ จึงถือว่ามีความเสี่ยงที่จะเพิ่มแนวโน้มการรักษาตัวในโรงพยาบาล ด้วยเหตุนี้ การรักษาระดับความเข้มข้นของมาตรการตอบสนอง ทั้งการตรวจคัดกรองเชิงรุก และการฉีดวัคซีน เป็นสิ่งที่ทุกประเทศต้องร่วมกันปฏิบัติต่อไป โดยอย่าชะล่าใจ และอย่าเพิ่งด่วนสรุป ว่าเชื้อโอไมครอน “ไม่รุนแรงเทียบเท่า” เชื้อเดลตา และวัคซีนที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันดีมากน้อยกว่ากันอย่างไร.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES