สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ว่านายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐ กล่าวเมื่อวันศุกร์ เกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างจีนกับไต้หวัน ว่ารัฐบาลปักกิ่งยังคงเดินหน้าความพยายามฝ่ายเดียว “เพื่อเปลี่ยนสถานะ” ของไต้หวัน ด้วยเหตุนี้ สหรัฐจึงต้อง “ยึดมั่นอย่างสูงสุดตามพันธกรณี” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ว่ารัฐบาลไทเปจะสามารถป้องกันตัวเองได้ แต่ปฏิเสธกล่าวโดยตรง ว่าหมายถึง “ความสนับสนุนทางทหาร” หรือไม่


อย่างไรก็ตาม รัฐบาลวอชิงตันหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คณะผู้นำของจีนจะ “ไตร่ครองด้วยความระมัดระวัง” และ “ไม่ถลำลึกลงไปในวิกฤติ” ที่จะสร้างแรงกระเพื่อมเป็นผลกระทบในวงกว้าง และเป็นเรื่องที่ไม่อยู่ในขอบเขตผลประโยชน์ของฝ่ายใด โดยเฉพาะรัฐบาลปักกิ่งเอง


ทั้งนี้ บลิงเคนยืนยันว่า นโยบายต่างประเทศของสหรัฐในยุคประธานาธิบดีโจ ไบเดน “ให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง” ต่อทุกมิติที่เกี่ยวข้องกับจีน ซึ่งแน่นอนว่า หนึ่งในนั้นเกี่ยวข้องกับเรื่องไต้หวัน โดยรัฐบาลวอชิงตันเชิญผู้แทนของรัฐบาลไทเปให้เป็นหนึ่งในแขก 110 คน ร่วมการประชุมออนไลน์ “เกี่ยวกับประชาธิปไตย” (Summit for Democracy) ระหว่างวันที่ 9-10 ธ.ค.นี้ โดยมีวัตถุประสงค์ “เพื่อการส่งเสริมคุณค่าทางประชาธิปไตย และการยกระดับสิทธิมนุษยชนทั่วโลก”


กระนั้นไม่มีชื่อของจีนและรัสเซีย นอกจากนี้ “เป็นที่น่าสังเกตเช่นกัน” ว่าในกลุ่มตะวันออกกลางมีเพียงอิรักและอิสราเอลที่ได้รับเชิญ แต่ไม่มีอียิปต์ และตุรกี ในส่วนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่มีไทย สิงคโปร์ เวียดนาม ลาว กัมพูชา และเมียนมา หมายความว่า มีเพียงมาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ที่จะเข้าร่วม ซึ่งมีการวิเคราะห์เช่นกัน ว่าทั้งสามประเทศล้วนมีข้อพิพาทยืดเยื้อกับรัฐบาลปักกิ่ง เกี่ยวกับการกำหนดอาณาเขตทางทะเลที่เหลื่อมล้ำกัน.

เครดิตภาพ : AP