สำนักข่าวเอพีรายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ว่า อินเดียเป็นหนึ่งในประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลก ที่ประสบภาวะตกต่ำครั้งใหญ่สุด ในปีงบประมาณที่แล้ว
ช่วงไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว เศรษฐกิจอินเดียหดตัว 7.4% ผลพวงจากการระบาดรุนแรงของโควิด-19 และมาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดทั่วประเทศ นานหลายเดือน ซึ่งส่งผลกระทบมหาศาล ต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศ
หลังการระบาดที่สร้างความหายนะ ของไวรัสสายพันธุ์เดลตา ในช่วงต้นปีนี้ สถานการณ์ในอินเดียเริ่มดีขึ้น ในระยะไม่กี่เดือนล่าสุด อัตราการติดเชื้อรายวันลดดิ่งลง มาอยู่ที่ประมาณ 10,000 คนต่อวัน จากช่วงสูงสุดวันละ 400,000 คนในเดือน พ.ค. การฉีดวัคซีนให้ประชาชนคืบหน้าอย่างรวดเร็ว สร้างความเชื่อมั่นในการเปิดธุรกิจและอุตสาหกรรม ตามปกติอีกครั้ง ตอนนี้ตามท้องถนนและตลาดทั่วประเทศ เต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่าน
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า หลายภาคเช่นการเกษตรและเหมืองแร่ มีผลประกอบการดี และช่วยนำการเติบโต ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้
เศรษฐกิจอินเดียขยายตัวอย่างน่าทึ่งถึง 20.1% ในช่วงระหว่างเดือน เม.ย. – มิ.ย.ปีนี้ นับเป็นไตรมาสที่เติบโตรวดเร็วที่สุด ตั้งแต่อินเดียเริ่มมีการเผยแพร่ตัวเลขจีดีพี (ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ) ในปี พ.ศ. 2539 แต่บรรดานักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า ตัวเลขพุ่งสูงดังกล่าว คิดคำนวณจากฐานของปี 2563 ที่เล็กกว่า ซึ่งเศรษฐกิจอินเดียช่วงไตรมาส 3 ของปีที่แล้วหดตัว 24.4% ทำให้ประเทศเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย.
เครดิตภาพ – AP, Reuters
เครดิตคลิป – CNA