จากการ “พยากรณ์ตามหลักโหราศาสตร์ ตามเกณฑ์ดวง ดาว โดยตอนแรกนักโหราศาสตร์รายหนึ่งชี้ให้จับตา “120 วันอันตราย?” กรณีจะเปิดประเทศ ตอนสองนักโหราศาสตร์อีกรายทำนายเกี่ยวกับ “วงจรร้าย?-วงจรอุบาทว์?” ตอนสามนักโหราศาสตร์อีกรายหนึ่งก็ทำนายโดยอิงไพ่พยากรณ์โดยเตือน “เหตุไม่คาดฝัน?-เหตุไม่คาดคิด?” …กับ “ดวงไทยปี 2564 ครึ่งปีหลังจะเป็นเช่นไร??” วันนี้มาดูกันต่อกับการพยากรณ์โดยนักโหราศาสตร์อีกราย ที่อิงตำราโหรแบบจีน นั่นคือ อ.ภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล หรือซินแส ดร.ภาณุวัฒน์ ซึ่งได้วิเคราะห์ไว้ทั้ง โควิด-19 สังคม เศรษฐกิจ การเมือง…

มาดูการทายทัก “ครึ่งปีหลัง ปีนักษัตรฉลู ธาตุทอง”

“วัวทองกลางยุคโควิด” ซินแสหลักโหรจีนชี้เช่นไร??

ทั้งนี้ อ.ภาณุวัฒน์ สะท้อนการ “พยากรณ์ดวงไทยครึ่งปีหลัง” ผ่านมาทาง “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” โดยสังเขปมีดังนี้คือ… “เรื่องของโรคภัยไข้เจ็บ ไวรัสโควิด-19 ยังเป็นเรื่องที่ต้องมีความระมัดระวังกันอย่างต่อเนื่อง เพราะจะยังอยู่คู่กับโลกไปอีกนาน ดังนั้น การ์ดอย่าตกกันโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสวมแมสก์ เว้นระยะห่าง ล้างมือ

อย่างไรก็ตาม กับ “สภาวการณ์ทางด้านสังคมส่วนรวม” ซินแสรายนี้บอกว่า… เมื่อเป็นปีนักษัตรฉลูที่เป็นธาตุทอง ที่เป็นสัญลักษณ์ความดีมีคุณธรรม ก็จะส่งผลให้ หลาย ๆ สิ่ง หลาย ๆ อย่าง สามารถจะเริ่มดีมากขึ้นกว่าเดิมได้ ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้ดั่งใจที่ทุกคนต้องการ โดยมักจะมีคนดี มีผู้หลักผู้ใหญ่ผู้มีอำนาจ นักธุรกิจ ที่มีคุณธรรม เข้ามามีบทบาท พยายามสร้างกระแสแห่งความอนุรักษ์ ยึดถือ ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของประเทศไทย ไม่ให้แหลกเหลวไปตามยุคสมัยที่การสื่อสารสมัยใหม่ไร้พรหมแดนมักจะมีการเผยแพร่เรื่องที่ไม่ดีมาสู่เยาวชนของไทยได้ง่าย ๆ ด้วย

“กฎแห่งกรรมนั้นมีจริง… จะเป็นช่วงที่คนที่ทำไม่ถูกต้อง ไม่มีคุณธรรม ไม่มีศีลธรรม ก็จะค่อย ๆ ถูกขจัดออกจากสังคมส่วนรวมไป...” …ทางซินแสโหราศาสตร์ตำราจีนชี้ “สภาวการณ์สังคมไทยในช่วงครึ่งปีหลัง

สำหรับ “สภาวการณ์ทางด้านเศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564” นี้ ทาง อ.ภาณุวัฒน์ ก็ได้สะท้อนคำทำนายทายทักมา บางช่วงบางตอนมีว่า… เรื่องไวรัสโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจของโลก ของส่วนรวมในแง่มหภาค ยังคงมีความผันผวนวุ่นวาย ไม่นิ่ง ซึ่งกรณีเช่นนี้ก็ย่อมจะหมายรวมถึงประเทศไทยด้วย แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อก้าวเข้าสู่ช่วงปลายปีนี้ อะไร ๆ ก็จะมีความกระจ่างชัดมากขึ้น ทำให้ทุกคนในส่วนรวมเริ่มมองเห็นถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้นอยู่รอบ ๆ ตัวว่าเป็นเช่นไร เหตุการณ์หลาย ๆ สิ่ง หลาย ๆ อย่าง จากที่มีความสับสนวุ่นวาย ก็จะมีการพลิกผันเปลี่ยนแปลง

“เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายปี 2564 จะเริ่มตั้งหลักตั้งสติกันได้ เริ่มปัดฝุ่นขจัดสิ่งที่ไม่ดีที่อยู่รอบ ๆ ตัวออกไป แล้วค่อย ๆ ลุกขึ้นเริ่มก้าวเดินไปสู่แนวทางที่ถูกต้อง ก้าวไปสู่เส้นทางที่มีอนาคตในภายภาคหน้าด้วยตัวเองอย่างมีความมั่นอกมั่นใจมากขึ้น โดยไม่หลงทาง ไม่ต้องถูกคนอื่นมาชักจูงอีก ทำให้ทุกคนในส่วนรวมในแง่มหภาคต่างก็จะเริ่มมีทั้งกำลังใจ และกำลังกาย จะมีแรงมุมานะในการทำงาน ในการดำเนินธุรกิจกันมากขึ้น

…สรุปจากการพยากรณ์ “เศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งปีหลัง” ดังที่ทางซินแสรายนี้พยากรณ์ ก็ประมาณว่า… รอถึงช่วงปลายปีนี้คนไทยก็จะเดินหน้าทำอาชีพ ทำงาน ทำธุรกิจกันได้อย่างที่ไม่เหมือนในช่วงนี้ ที่ต่างก็สะดุดติดขัด

ปิดท้ายที่การทายทัก “สภาวการณ์ด้านการเมืองไทยช่วงครึ่งปีหลัง” ของปี 2564 ที่ทางซินแส ดร.ภาณุวัฒน์ ระบุว่า… “ประชาชนก็ยังต้องทำใจยอมรับกับสภาวการณ์บ้านเมือง ที่เกิดขึ้นจากฝีมือของนักการเมืองทั้งหลาย ที่ดูเหมือนจะมีการพัฒนาแล้ว แต่ที่แท้จริงแล้วลึก ๆ ก็ยังคงซ่อนเร้นแอบแฝงไปด้วยผลประโยชน์ที่ซับซ้อนอยู่ภายใน…” และ… “เมื่อมีโอกาสขึ้นมาเป็นใหญ่ มักจะยึดเอาแน่นอนในคำพูดที่ได้พูดออกมาไม่ได้ เพราะมักจะเปลี่ยนไปตามกระแสที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา…ซึ่งกับสถานการณ์การเมืองไทยที่ผ่าน ๆ มานั้น ถึงแม้ว่าจะมีน้ำดีเข้ามาสู่วงการการเมืองบ้าง แต่ก็มักจะถูกน้ำเสียที่มีมากกว่าเข้ามาครอบงำ ทำให้เกิดการขุ่นมัวดำคล้ำ และก็ต้องกลายเป็นน้ำเสียไปด้วยในที่สุด ซึ่งก็ต้องมีคนที่ดี คนที่มีความพยายาม มาล้างบาง ล้างน้ำเสียออกไป การเมืองไทยก็พอที่จะดีได้

อย่างไรก็ดี ทางซินแสรายนี้ทำนายว่า… “ภายในสิ้นปีนี้ จะเป็นช่วงเวลาแห่งการสรุปจบ ใครปลูกถั่วได้ถั่ว ใครปลูกงาได้งา ใครทำดีหรือทำไม่ดีตั้งแต่ในช่วงที่ผ่านมา ก็จะมีผลตอบสนองให้เห็นแบบปัจจุบันทันด่วน…

จะได้เห็นกันทันในชาตินี้…ไม่ต้องรอชาติหน้า!!

ทั้งนี้ อ.ภาณุวัฒน์ ยังระบุอีกว่า… ใครที่ทำอะไรแบบขอให้ตัวเองรวยเป็นพอ…บ้านเมืองจะล่มจมอย่างไรก็ช่าง ใครที่คิดร้าย…คิดทำอะไรไม่ดีกับบ้านเมือง แม้จะเป็นบุคคลที่มีอำนาจ แม้ที่ผ่านมาจะไม่มีใครสามารถที่จะทำอะไรได้ แต่ผลสุดท้ายแล้วก็จะแพ้ภัยตัวเองไปในที่สุด ต้องรับผลกรรมในสิ่งที่ตัวเองคิด-ที่ตัวเองกระทำ

ทิ้งท้าย…กับ “วิกฤติโควิด-19” ที่ขณะนี้ “ประเทศไทย-คนไทยได้รับผลกระทบรุนแรง!!” ทาง อ.ภาณุวัฒน์ ระบุว่า… ที่ผ่านมามีตัวอย่างที่ได้เห็นกันมามากต่อมากแล้ว อย่างวิกฤติต้มยำกุ้ง หรือผลกระทบจากวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ วิกฤติซับไพรม์… บ้านเมืองของเรานั้น เมื่อเกิดวิกฤติปัญหาใด ก็จะมีทางออกให้สามารถที่จะผ่านพ้นไปได้…

เพราะว่าคนไทย-ประเทศไทยของเรานั้น…

มี “พระสยามเทวาธิราช” คุ้มครองดูแล.