ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้เลี้ยงปลากระชังชาวตำบลพอกน้อย อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ที่เลี้ยงปลากระชังตามลำน้ำอูนได้รับผลกระทบเนื่องจากอากาศหนาวเย็นมานานกว่า 15 วันแล้ว โยช่วงเช้าอากาศจะเย็นจัด กลางวันจะร้อนจัด ส่งผลให้ปลาที่เลี้ยงในกระชังช็อกตายเป็นจำนวนมาก

นายจะโนช ศาตรผา บ้านนาซอน ต.โคกสว่าง อ.พรรณานิคม สกลนคร เจ้าของปลากระชัง บอกว่า เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จังหวัดสกลนครประสบกับสภาพอากาศที่เย็นจัด เฉลี่ย 15-17 องศาเซลเชียส ส่งผลให้ปลานิลที่ตนเลี้ยงในกระชังเป็นโรคหางแดง ไม่กินอาหาร ขาดออกซิเจนทำให้ปลาที่เลี้ยงไว้ในกระชังช็อกตายเป็นจำนวนมาก โดยอายุของปลาที่เลี้ยงจะใช้เวลา 4-5 เดือน ซึ่งพวกตนได้เริ่มเลี้ยงตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งจะนำออกขายเต็มวัยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ จากผลดังกล่าวทำให้ต้องรีบเก็บปลาในกระชังออกขาย แบบขาดทุน ซึ่งตนลงทุนเลี้ยงปีนี้ ต้นทุน 3-4 แสนบาท นำปลาออกขายแบบขาดทุน เหลือเงินในกระเป๋า 192 บาท ไม่รู้จะทำอย่างไรกับปัญหานี้ ได้แต่นั่งก่อกองไฟผิงคลายหนาวริมลำน้ำอูน เสียดายกับเงินที่สูญเสียไปหลายแสนบาท

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มผู้เลี้ยงปลาในกระชังบ้านพอกน้อย ตำบลพอกน้อย อำเภอพรรณนานิคม จ.สกลนคร ได้ก่อตั้งกลุ่มเลี้ยงปลาในกระชังมาหลายสิบปี สร้างรายได้หลายสิบล้านบาท โดยมีกระชังปลาหลายร้อยกระชัง ขณะนี้ต้องรีบเร่งขายปลาที่เลี้ยงไว้ออกไปให้มากที่สุด ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้ขนาดตามที่ตลาดต้องการก็ตาม หากไม่เช่นนั้นต้องขาดทุน อย่างน้อยก็ขอต้นทุนคืนมาบางส่วน ส่วนเจ้าของบ่อปลาที่เพิ่งปล่อยลูกปลาก็คงรับภาระขาดทุน ส่วนปลาที่ตายก็นำไปหมักทำเป็นปลาร้า จะไม่ทิ้งเปล่าหรือฝังกลบ อย่างน้อยก็จะมีรายได้เพิ่ม