เมื่อวันที่ 14 ก.ค. น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส.สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การสื่อสาร โทรคมนาคมและดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)  สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ในช่วงโควิด-19 และการล็อกดาวน์ ทำให้ประชาชนหลายคนต้องหยุดงานและขาดรายได้ ปัจจุบันพบว่ามีมิจฉาชีพแฝงตัวมาในลักษณะปล่อยเงินกู้ผ่านระบบออนไลน์ โดยใช้วิธีการเข้ามาขอเป็นเพื่อนผ่านทางเฟซบุ๊กหรือตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ต่างๆ ประกาศเชิญชวนให้ใช้บริการเงินกู้ โดยอ้างว่าสามารถกู้เงินได้โดยไม่ต้องมีคนค้ำ อนุมัติไว แต่มีข้อแม้ว่าผู้กู้จะต้องโอนเงินค่าธรรมเนียมเป็นเงิน 10 เปอร์เซ็นต์ของเงินที่จะขอกู้ก่อน หรืออาจอ้างว่าต้องมีค่าใช้จ่ายอย่างอื่น และหากชำระเงินล่าช้าจะถูกทวงหนี้แบบหยาบคาย ข่มขู่ ตัดต่อภาพเชิงลามกอนาจาร โดยส่งประจานไปยังเพื่อนๆ ผ่านเอสเอ็มอี เฟซบุ๊ก ที่เจาะข้อมูลเข้าไป ซึ่งเรื่องนี้ทาง กมธ.ดีอีเอส คิดว่าจะต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชนรับรู้ รวมทั้งต้องกำชับ กสทช.และผู้ให้บริการเครือข่ายต่างๆ ให้เข้มงวดกับเรื่องดังกล่าว ต้องช่วยคัดกรอง อย่าปล่อยปละให้มีการหลอกลวงในลักษณะนี้

ด้าน พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะรองประธาน กมธ.ดีอีเอส กล่าวว่า กมธ.ดีอีเอสเตรียมที่เชิญ กสทช.และโอปเรเตอร์ต่างๆ มาทำความเข้าใจและหาทางแก้ไขในเรื่องนี้ในการประชุม กมธ.ครั้งต่อไป แม้ว่าอาจจะทำได้ยากเพราะหลายเว็บไซต์มีเซิร์ฟเวอร์หลักอยู่ต่างประเทศ กฎหมายของประเทศไทยอาจจะไม่ครอบคลุม แต่เราสามารถสกัดกั้นและคัดกรองได้เพื่อช่วยเหลือประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อได้ รวมถึงเว็บไซต์การพนันออนไลน์ด้วย เพราะแม้ว่า การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปหรือ ยูโร 2020 จะจบลงไปแล้ว แต่ยังมีรายการฟุตบอล รวมถึงกีฬาอื่นตลอดทั้งปี รวมถึงการพนันในลักษณะอื่นๆ ด้วย ซึ่งการพนันเป็นส่วนหนึ่งที่อาจจะทำให้เกิดอาชาญกรรม ดังนั้นการแก้ไขในเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทาง กมธ.ดีอีเอส จะต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางป้องกันและปราบปราม รวมถึงการให้ประชาชนได้รับทราบต่อไป.