นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) จัดโครงการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมบนเส้นทางสายเกลือใน 3 จังหวัดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือประกอบด้วย สกลนคร บึงกาฬ และนครพนม ระหว่างวันที่ 30 พ.ย.-3 ธ.ค. 2564 โดยมีผู้แทน วธ. กต.และสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ เข้าร่วมเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เส้นทางสายเกลือในพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ช่วยส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมระดับนานาชาติ สร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ทั้งนี้ในพื้นที่ 3 จังหวัดดังกล่าว เป็นแหล่งอารยธรรมเกลือสินเธาว์ลุ่มแม่น้ำสงครามเชื่อมโยงประวัติศาสตร์ลุ่มน้ำโขง เนื่องจากแม่น้ำสงครามเป็นแม่น้ำสายสำคัญเชื่อมพื้นที่ 3 จังหวัด ตลอดเส้นทางน้ำระยะ 420 กิโลเมตร เป็นแหล่งวัฒนธรรมของหลายกลุ่มชาติพันธุ์ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ทำให้เกิดชุมชนที่อยู่คู่กับแหล่งผลิตเกลือสินเธาว์และมีความเจริญก้าวหน้าในสมัยก่อนประวัติศาสตร์มาก่อน 5,000 ปี ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นายอิทธิพล กล่าวอีกว่า จ.สกลนคร บึงกาฬ และนครพนม นอกจากเป็นเส้นทางแหล่งผลิตเกลือสินเธาว์แล้ว ยังมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในชุมชนที่เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้กรรมวิธีผลิตเกลือสินเธาว์ และชุมชนคุณธรรมฯ ในโครงการ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” เช่น จ.บึงกาฬ เที่ยวชมบ่อเกลือหัวแฮด เป็นแหล่งผลิตเกลือสินเธาว์กลางลุ่มน้ำสงคราม และชมกระบวนการต้มเกลือสินเธาว์โบราณที่เชื่อมโยงกับสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมใน 3 จังหวัดมาตั้งแต่อดีต และ จ.สกลนคร ท่องเที่ยวศึกษาเรียนรู้ “ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านท่าวัดเหนือ” ที่มีบึงหนองหารกว้างใหญ่และทิวทัศน์สวยงาม แหล่งเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและการทอผ้าลายขอมรดกภูมิปัญญาท้องถิ่น วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร อุทยานแห่งชาติภูพาน วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร “ชุมชนคุณธรรมฯบ้านท่าแร่” ชมบ้านโบราณร้อยปี โบสถ์อาสนวิหารอัครเทวดามิคาแอลที่งดงาม และงานประเพณีแห่ดาวช่วงเทศกาลคริสต์มาส ขณะที่จ.นครพนม มี “ชุมชนคุณธรรมฯบ้านนาถ่อน” เป็นชุมชนชาวไทยกวนที่อนุรักษ์สืบทอดวิถีชีวิต วัฒนธรรม และประเพณีเก่าแก่มายาวนาน เช่น ประเพณีบุญฮีตสิบสอง ประเพณีบุญเดือน 3 ออกใหม่ 3 ค่ำ ประเพณีกินดองและภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชน เช่น การตีเหล็ก ทอผ้าและย้อมสี งานจักสาน ทำพานบายศรีขันหมากเบง การต้มเกลือสินเธาว์และเกลือสปา และพิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม (หลังเก่า) ซึ่ง วธ.จะส่งเสริมให้แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมทั้งหมดดังกล่าวให้ป็นที่รู้จักแพร่หลายในวงกว้าง เพื่อให้คนไทยและชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวชมวิถีชีวิต วัฒนธรรม และประเพณีท้องถิ่นอันงดงาม ก่อให้เกิดรายได้สู่ชุมชนช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน