นาทีนี้ต้องยอมให้กับความฮอตของสาวสวยสุดแซ่บ ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์ ที่ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไรก็เป็นกระแส ล่าสุดเจ้าตัวหวนกลับมาเล่นหนังอีกครั้งในรอบเกือบ 10 ปี กับภาพยนตร์เรื่อง “Dark World เกม ล่า ฆ่า รอด” วันนี้ “บันเทิงเดลินิวส์” เลยไม่พลาด มีนัดพูดคุยกับสาวดิวแบบเอ็กซ์คลูซีฟถึงบทบาทสุดท้าทายครั้งนี้ รวมไปถึงอัพเดทเรื่องหัวใจกับนักธุรกิจหนุ่มนอกวงการ เซบาสเตียน ลี ที่เธอถึงกับเอ่ยปากว่า กว่าจะคบกันจนถึงวันนี้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคและดราม่าต่าง ๆ เยอะทีเดียว

พูดถึงบทบาทของ ดิว-อริสรา ในเรื่อง “Dark World เกม ล่า ฆ่า รอด”

“ในเรื่องนี้ดิวรับบทเป็นไอรีน ตัวละครนี้ค่อนข้างน่ากลัว ระบบความคิดของไอรีนค่อนข้างพังมาก เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าตัวละครนี้คิดอะไรอยู่ หรือทำไปเพราะอะไร ทุกอย่างที่เขาเจอมา ทำให้สิ่งที่แสดงออก หรือ บางสิ่งที่ควรคิดได้ เขาคิดไม่ได้ เป็นบทที่ดาร์กจริง ๆ แต่ก็มีมุมที่สะท้อนออกมาให้เห็นว่าทำไมคนถึงต้องดิ้นรน ซึ่งในเรื่องก็จะมีหลายตัวละครที่รับมือกับโลกดาร์ก ๆ แตกต่างกันออกไป”

ผู้สร้างบอกว่า ดิว-อริสรา คือตัวตั้งต้น บทนี้ต้องคนนี้เท่านั้น?  

“ดิวรู้สึกขอบคุณมาก เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีอะไรเริ่มต้นจากเราหรอก เราไม่ได้อยู่ตำแหน่งที่เขาจะเริ่มจากเรา เรื่องนี้เราเลยพยายามทำให้ดีที่สุด ในสิ่งที่เขาเห็นค่าเรา ซึ่งบทนี้ ทำให้ดิวเข้าใจถึงการเป็นนักแสดง อย่าง 100 เปอร์เซ็นต์ ที่ผ่านมาเราไม่เคยทำการบ้านเหนื่อยขนาดนี้มาก่อน ไม่เคยเข้าคลาสแอ๊คติ้ง ออกมาแล้วยังรู้สึกว่าไม่พอ ต้องคุยกับครูว่าขอเข้าคลาสได้อีกไหม หนังเรื่องนี้ไม่ใช่คอมมาดี้ หรือหนังรัก จะเป็นหนังที่เล่นกับความรู้สึกและความคิดของคน เลยค่อนข้างหนัก บางทีดิวเครียด กลับบ้านต้องกินยาแก้ปวดหัวเลยนะ กลัวว่าถ้าได้ติดคาแรกเตอร์มาจากในเรื่องสักนิดนึงจะน่ากลัวมาก ซึ่งเราไม่อยากเป็นแบบนั้นก็จะคุยกับครูแอ๊คติ้งตลอด”

การเลือกรับงานของดิวตอนนี้?

“ตั้งแต่ปีที่แล้ว ดิวคุยกับพี่หวานเจี๊ยบ ผู้จัดการส่วนตัว เรื่องแนวทางการทำงานร่วมกัน ก็คุยว่าดิวอยากทำอะไรก็ได้ ที่ดิวอยู่ตรงนั้น ดิวทำแล้วมีความสุข เพราะฉะนั้นอะไรที่เห็นดิวหลังจากนี้เป็นต้นไป เป็นสิ่งที่เราทำเพราะแพสชั่นแล้ว ที่ผ่านมา เรายังเด็ก ก็ต้องสร้างรากฐานตัวเอง พอวันนี้เรามั่นคงประมาณนึง ก็อยากทำด้วยใจจริง ๆ ไม่ได้ทำเพราะโดนจ้าง งานพรีเซ็นเตอร์ก็เป็นอย่างหนึ่งอย่างที่เราอยากทำ เพราะเราไม่เคยมีโอกาส พอมาถึงวันนี้ เลยเป็นโหมดซึ้ง ว่าเขาเลือกเราเลยหรอ มีรูปอยู่ที่บิลบอร์ดด้วย เมื่อก่อนเคยขับรถผ่าน เห็นป้ายคนอื่น ยังพูดกับตัวเองอยู่เลยว่าไม่มีทางที่เราจะอยู่บนนั้นหรอก เรารู้ศักยภาพตัวเอง แต่พอวันนึงที่หลาย ๆ คนมองเห็นเรา ดิวก็เลยอยากทำให้ที่สุด”

รีวิวตัวเองกับวงการบันเทิงหน่อย?

“ถ้านับตั้งแต่แคสติ้งโฆษณา ก่อนที่จะโชคดีได้มาเล่นหนังและละคร ก็ตั้งแต่อายุ 16 ปี มาถึงวันนี้ก็ 15-16 ปีแล้ว ช่วงนั้นเลิกเรียน 3-4 โมง ต้องต่อคิวแคสติ้งละครคิวที่ร้อยกว่า กับ มาริโอ้ เมาเร่อ, กุ๊บกิ๊บ-สุมณทิพย์ ฯลฯ แล้วทุกคนเขาจะมีแนวทางได้เป็นพระเอก นางเอก แต่ด้วยนิสัยเรา ดิวแคสติ้ง รายการสตอเบอร์รี่ชีสเค้กตกรอบ เพราะเราไม่แบ๊ว พี่แอร์- ภัณฑิลา, ออม-สุชาร์, ทับทิม มัลลิกา ได้จ้า ก็ฝ่าฝันมาเยอะ แล้วก็มีข่าวว่าเป็นแฟนกับคนนั้น คนนี้ แล้วก็มาเล่นละคร เอาจริง ๆ เราเริ่มมาจากติดลบ จนมาถึงจุดตรงนี้ ก็เหนื่อยมาเยอะ ผ่านมาเยอะ ทั้งกระแสข่าวต่าง ๆ แต่จริง ๆ ดิวรักวงการบันเทิงนะ เพราะวงการสอนให้ดิวเป็นดิวทุกวันนี้”

มีช่วงท้อหรือเบื่อบ้างไหม?

ดิวไม่เคยท้อ หรือเบื่อกับวงการบันเทิงเลยนะ เพราะวงการบันเทิงไม่เคยทำร้ายดิว นอกจากบางทีที่ทำตัวเองแล้วโดนด่า ก็รับ ๆไปดิ (หัวเราะ) ดิวคิดอย่างนั้น อาจจะมีบางคอมเมนต์ที่ไม่เข้าใจดิว แต่ทุกครั้งที่เจอเรื่องแย่ ๆ มาคนในวงการบันเทิงทำให้ดิวยังอยากอยู่ต่อ หลังฉากยังมีอะไรอีกเยอะ มีทีมงานอีกเยอะที่เขาไม่ได้เป็นแบบคนในคอมเมนต์”

เพิ่งกลับมาจากไปเที่ยวทริปอเมริกาเป็นยังไงบ้าง?

“ดีนะคะ แฮปปี้ ได้เรียนรู้อะไรกันเยอะ รู้ว่าเราจะไปต่อด้วยกันได้ไหม เราคบกันมาจะปีนึงแล้ว ตอนที่เดินทางคบกันประมาณ 8-9 เดือน ซึ่งยังไม่รู้หรอกว่าจะรอดหรือไม่รอด ยังใหม่ ๆ แต่คนนี้อุปสรรคเยอะเหลือเกิน (ยิ้ม) เราก็คิดว่า 3 เดือนที่ไปก็วัดใจ ซึ่งพอกลับมา แล้วเรายังรู้สึกอินเลิฟกันอยู่ แสดงว่าเราก็น่าจะไปต่อกันได้”

ดราม่าต่าง ๆ เยอะมาก?

“เซบเขาไม่รู้ว่าจะต้องรับมือกับวงการบันเทิงยังไง อ่านแค่คอมเมนต์เดียว ก็เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง แล้วไปอ่านคอมเมนต์ในใต้เตียงดารา (หัวเราะ) แต่เดี๋ยวนี้เขาจะเริ่มเข้าใจแล้ว แล้วเขาจะติดดราม่า พอโพสต์แล้วเป็นข่าวเลยงานงอก เพื่อนดิวก็บอกเขาว่า แฟนยูอ่ะ มีชื่อเสียงอยู่นะ แต่เราเป็นคนไม่ชอบพูดเยอะ ไม่ใช่สายพยายามอธิบาย แล้วตอนนั้นเพิ่งเริ่มคบ เลยคิดว่าถ้าไม่เข้าใจก็เลิกไปเลย เขาก็ยิ่งคิดว่าแสดงว่าที่ผ่านมาทุกอย่างมันจริงล่ะสิ เลยเลิกกับไอง่ายขนาดนี้ ซึ่งดิวชอบคุยกับคนตอนที่ใจเย็น ถ้าดราม่าอย่างนี้ ต่อให้อธิบายไปก็ไม่รู้เรื่องหรอก เลยบอกว่าพร้อมคุยเมื่อไหร่ก็บอกมา หลังจากนั้นก็มีดราม่าเรื่องพลุ แต่ก็ผ่านมาได้”

หลายคนอยากรู้จัก เซบาสเตียน และอยากรู้ว่าเจอกันได้ยังไง?

“เขาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เกี่ยวกับพวกคอนโดฯ ส่วนบ้านที่ไต้หวันก็มีธุรกิจ พอคุณพ่อมาลงทุนตรงนี้ไว้เลยให้ลูกมาดู แต่ถ้าไม่มีโควิด-19 เขาก็จะไป ๆ มา ๆ ไม่ได้อยู่ไทยตลอด เรารู้จักกันเพราะเพื่อนแนะนำ แต่จริง ๆ เคยเจอตั้งแต่สมัยปี 2017 ค่ะ หลายปีแล้ว เขาพยายามจีบดิว แต่ดิวไม่รู้ว่าเขาไดเรกต์ไอจีมา แกล้งถามโน่น นั่น นี่ เพิ่งมารู้ตอนเพื่อนแนะนำให้รู้จักกัน พอเข้าไปดูข้อความก็ อุ๊ย…เคยส่งข้อความมา ยูเป็นคนมีเป้าหมายไว้พุ่งชนนะเนี่ย (หัวเราะ)”

คนค่อนข้างจับตามองเรื่องฐานะของเขา?

“เอาจริง ๆ ดิวคบกับใครก็โดนจับจ้องเรื่องคนรวยหมดนะ สมัยก่อนเคยเจอว่าหน้าตาไม่ดี คบไปได้ยังไง แต่อยากบอกให้รู้ว่าจริง ๆ ชีวิตคนเรามีอะไรมากกว่านั้น แต่พูดไปคนก็ไม่เชื่ออยู่ดี ดิวว่าเราเป็นผู้หญิงก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดในกับตัวเอง ต้องเลือกคนที่อยู่ด้วยแล้วมีความสุข ไลฟ์สไตล์ไปด้วยกันได้ และเขาต้องมีเสน่ห์ที่ทำให้ดิวชอบ หลักจากนั้นเรื่องของฐานะ หรือการดูแล คือ ความโชคดี แต่ทุกวันนี้กระเป๋า รองเท้า ดิวก็ยังต้องซื้อเองนะ เสื้อผ้ายังต้องซื้อเอง แต่อาจจะได้ใช้ชีวิตด้วยการไปเที่ยว ได้เห็นโลกใหม่ ๆ ดิวเชื่อว่าไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายก็ต่างอยากได้สิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง เขาก็ต้องอยากได้แฟนดีเหมือนกัน ไม่ใช่แค่สวยอย่างเดียว แต่ข้างในก็ต้องสวยด้วย ดิวคิดอย่างนี้นะ

มุมมองความรักเปลี่ยนไปไหม?     

“เปลี่ยนไปนะคะ ที่ผ่านมาเราอาจจะงง ๆ เพราะสังคม กลุ่มเพื่อน หรือความคิดของคนอื่นที่บอกว่า ผู้หญิงต้องมีแฟนแบบนี้ถึงจะโชคดี ต้องมีผู้ชายเปย์ ซื้อรถ ซื้อกระเป๋า ซื้อบ้าน แต่ตอนนี้ดิวรู้แล้วว่าอะไรคือสิ่งที่ใช่สำหรับดิว การที่ได้อยู่ด้วยกัน เราได้พึ่งพาตัวเองบ้าง พึ่งพากันและกันบ้าง คือสิ่งที่ดิวต้องการในอนาคต ไม่ใช่แค่วันนี้”

สุดท้าย พูดถึง ดิว-อริสรา ในวันนี้?

“ทุกวันนี้ดิวมีความสุขกับชีวิตดีนะ อย่างเรี่องคุณพ่อคุณแม่ ดิวรู้สึกวางใจ คุณพ่อที่เคยไม่สบายก็โอเคแล้ว คุยจ้อเลย คุณแม่ไปโยคะบ้าง ขอไปวันเกิดเพื่อนบ้าง พอสิ่งที่เราแคร์ที่สุดวางได้ปุ๊บ เลยไม่ต้องห่วงอะไร หมาก็มีความสุข (ยิ้ม) รู้สึกว่าชีวิตโอเคแล้ว ไม่มีอะไรที่เราอยากได้มาก ๆ แล้วยังไม่ได้ แค่อยากจะอยากทำวันนี้ให้มันดีไปเรื่อย ๆ อาจจะมีดราม่ากวนใจบ้าง แต่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ดิวค่อนข้างปลง ถ้าว่างเดี๋ยวดิวก็ชี้แจง แต่ถ้าไม่ว่าง ก็คือไม่เห็นนะ อย่างทำยูทูบก็จะมีคนมาคอมเมนต์ว่า ขี้อวด, อุ๊ยคลิปนี้เซบไม่คุยด้วยเลย แสดงว่ามีกลิ่น ดิวเลยเอาแอคเคานท์ยูทูบไปถามนะ ว่ากลิ่นอะไรคะ ตามสไตล์ดิวเนอะ พี่หวานเจี๊ยบ (ผู้จัดการ) ก็จะบอกว่า ดิวหัดเป็นแม่ชม (ชมพู่-อารยา) บ้าง แม่ชมเขาไม่เคยมาตอบ ดิวก็คิดในใจว่าดิวเป็นแบบนั้นไม่ได้ (ยิ้ม) เราโตแล้ว แต่ยังไม่ทิ้งความเป็นตัวเอง เราจริงใจแบบนี้มาตั้งนานแล้ว แค่ปรับปรุงให้ดีขึ้น แต่ไม่ได้เปลี่ยนไป

นฤมล แซ่แต้ : เรื่อง