สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ว่ากระทรวงสาธารณสุขของออสเตรียรายงานสถิติผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมในประเทศอย่างน้อย 1,011,465 คน เสียชีวิตสะสมอย่างน้อย 11,903 คน และยังเหลือผู้ป่วยต้องรักษาตัวอยู่ในระบบอีกอย่างน้อย 131,961 คน


ในรอบ 24 ชั่วโมงล่าสุด มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 55 ราย และติดเชื้อเพิ่มอีก 15,145 คน เป็นสถิติรายวันสูงสุดนับตั้งแต่ออสเตรียเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรค เมื่อต้นปีที่แล้ว และเป็นการทำสถิติรายวันสูงสุดติดต่อกันสองวัน ขณะที่อัตราอุบัติการณ์ของโรคในรอบ 7 วันล่าสุด อยู่ที่ 971 ต่อประชากร 100,000 คน สูงสุดติดอันดับต้นของทวีปยุโรป


ด้านทางการรัฐโอเบอร์เอิสเทอร์ไรช์ และรัฐซาลซ์บูร์ก สองพื้นที่ซึ่งมีอัตราการติดเชื้อสูงสุดในออสเตรีย เรียกร้องรัฐบาลกลางในกรุงเวียนนาสั่งล็อกดาวน์ระดับเดียวกันทั้งประเทศ มิเช่นนั้นจะดำเนินการเอง ไม่ใช่เฉพาะการบังคับใช้มาตรการอย่างเจาะจงกับคนที่ไม่ฉีดวัคซีน และฉีดวัคซีนแล้วแต่ยังไม่ครบ


ทั้งนี้ รัฐบาลออสเตรียบังคับใช้มาตรการดังกล่าว นับตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยผู้มีอายุตั้งแต่ 12 ปี ซึ่งอยู่ในกลุ่มดังกล่าว จะสามารถออกจากบ้านเพื่อดำเนินชีวิตในสถานที่สาธารณะ “ได้ด้วยเหตุผลเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น” โดยเจ้าหน้าที่จะสุ่มตรวจหลักฐานการฉีดวัคซีนของประชาชนแต่ละคน ที่สัญจรอยู่ตามสถานที่สาธารณะ หากพบการฝ่าฝืนถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย และอาจต้องชำระค่าปรับมากถึง 1,450 ยูโร (ราว 53,720.12 บาท).

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES