สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ว่าจากกรณีองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซา) ของสหรัฐ ตำหนิการที่องค์การอวกาศรัสเซีย (รอสคอสมอส) ทดสอบขีปนาวุธลูกหนึ่งกับเป้าหมายที่เป็นดาวเทียมดวงหนึ่ง ซึ่งรัสเซียไม่ได้ใช้การแล้ว ส่งผลให้เกิด “ขยะอวกาศ” อย่างน้อย 1,500 ชิ้น “ที่ยังสามารถมองเห็นได้ผ่านจอเรดาร์และกล้องโทรทรรศน์” และยังมี “ชิ้นส่วนขนาดเล็กอีกนับไม่ถ้วน” ซึ่งยังไม่สามารถติดตามได้


ขณะที่ลูกเรือ 7 คนบนสถานีอวกาศนานาชาติ (ไอเอสเอส) แบ่งเป็นชาวอเมริกัน 4 คน ชาวรัสเซีย 2 คน และชาวเยอรมันอีกคนหนึ่ง ต้องหลบภัยและเตรียมการอพยพตามขั้นตอน โดยสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายในระยะเวลาเพียง 48 ชั่วโมง จนถึงวันจันทร์ที่ผ่านมานั้น


รอสคอสมอสออกแถลงการณ์ เมื่อวันอังคาร ว่า “ระบบเตือนภัยอัตโนมัติสำหรับสถานการณ์อันตราย” ยังคงจับตาสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันและตอบสนองต่อภัยคุกคาม ที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของไอเอสเอส และลูกเรือนานาชาติซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่


ด้านวงโคจรของชิ้นส่วนได้เคลื่อนตัวออกห่างจากรัศมีการโคจรของไอสเอสเอสแล้ว แม้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ลูกเรือต้องดำเนินการตามขั้นตอนของการเกิดเหตุฉุกเฉิน แต่ตอนนี้ถือว่า ไอเอสเอส “อยู่ในสถานะปลอดภัย”


อย่างไรก็ตาม นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า สถานการณ์ยังไม่ถือว่าปลอดภัยเต็มร้อย และรัฐบาลวอชิงตันไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้า ว่ารัสเซียจะทำการทดสอบลักษณะนี้ ซึ่งเป็นครั้งที่ 4 ในประวัติศาสตร์เท่านั้น ที่มีการยิงขีปนาวุธจากพื้นขึ้นไปทำลายวัตถุที่ลอยอยู่ในอวกาศ


อนึ่ง จีนเคยทดสอบอาวุธลักษณะเดียวกันนี้ เมื่อปี 2550 ส่งผลให้เกิดเศษซากกระจายเป็นวงกว้างจนนับชิ้นไม่ถ้วนเช่นกัน และหนึ่งในชิ้นส่วนขนาดใหญ่โคจรเข้ามาใกล้กับไอเอสเอส เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ลูกเรือช่วยกันเคลื่อนย้ายสถานี ให้พ้นจากเส้นทางอันตรายได้ทันเวลา


นอกจากนี้ สหรัฐและอินเดียเคยทำสอบขีปนาวุธต่อต้านดาวเทียมแบบนี้ด้วย เมื่อปี 2551 และ 2562 แต่ทั้งสองประเทศดำเนินการในระดับความสูงที่ต่ำกว่าไอเอสเอสมาก.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES