สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ว่า นายคริสโตเฟอร์ ลอว์เรนซ์ บอง เทโซโร โก หรือ “บองโก” วุฒิสมาชิกชื่อดัง วัย 47 ปี ยื่นเอกสารต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติของฟิลิปปินส์ เพื่อถอนตัวจากการลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ในนามตัวแทนพรรคประชาธิปไตยฟิลิปปินส์-พลังประชาชน หรือ “พีดีพี-ลาบัน” พรรคการเมืองสายกลาง-ซ้าย ซึ่งเป็นพรรคแกนนำรัฐบาลฟิลิปปินส์ชุดปัจจุบัน แล้วยื่นเอกสารสมัครในตำแหน่งประธานาธิบดี


ขณะที่ทำเนียบมาลากัน ยังเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต วัย 76 ปี ซึ่งจะไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งผู้นำฟิลิปปินส์ได้อีก ตามเงื่อนไขที่ระบุอยู่ในรัฐธรรมนูญ จะยื่นเอกสารสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ในนามตัวแทนของพรรคพีดีพี-ลาบัน คู่กับบองโก โดยผู้นำฟิลิปปินส์จะไปยื่นหลักฐานด้วยตัวเอง ในวันจันทร์ที่ 15 พ.ย.นี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่คณะกรรมการการเลือกตั้งรับยื่นเอกสารเปลี่ยนแปลงทั้งหมด ก่อนวันลงคะแนน คือวันที่ 9 พ.ค.ปีหน้า


ทั้งนี้ การตัดสินใจของดูเตร์เตผู้พ่อ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเคยประกาศว่า จะวางมือทางการเมือง เมื่อหมดวาระช่วงกลางปีหน้า หากเป็นความจริง หมายความว่าจะเป็นการขับเคี่ยวกับบุตรสาวของตัวเอง ในการชิงเก้าอี้รองผู้นำฟิลิปปินส์ โดยน.ส.ซารา ดูเตร์เต วัย 43 ปี ซึ่งเพิ่งสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคลากัส-ซีเอ็มดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ยื่นเอกสารสมัครในนามตัวแทนผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี แทนผู้สมัครคนเดิมของพรรคลากัส-ซีเอ็มดี ที่ขอถอนตัว

ผู้ประท้วงในกรุงมะนิลาแสดงจุดยืนต่อต้านตระกูลมาร์กอสและดูเตร์เต


ด้านผู้สันทัดกรณีทางการเมืองของฟิลิปปินส์ให้ความเห็นไปในทางเดียวกัน ว่าหากดูเตร์เตลงสมัครจริง จะกลายเป็น “การตัดคะแนน” กับบุตรสาว “อย่างน่าเสียดาย” ส่วนทีมงานของนายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ซึ่งลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยไม่มีผู้สมัครคู่ในตำแหน่งรองประธานาธิบดี ประกาศสนับสนุนบุตรสาวของดูเตร์เต ในตำแหน่งรองผู้นำ


ในเวลาเดียวกัน ที่หน้าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในกรุงมะนิลา มีมวลชนจำนวนหนึ่งรวมตัวประท้วง แสดงความไม่พอใจต่อความเคลื่อนไหวทางการเมือง “ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน” จะนำไปสู่ “ระบบมาร์กอส-ดูเตร์เต”.

เครดิตภาพ : REUTERS