สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 10 พ.ย.ว่านายถั่น จอ อ่อง ทนายความของนายแดเนียล เฟนสเทอร์ ผู้สื่อข่าวชาวอเมริกัน กล่าวว่า พนักงานสอบสวนตั้งข้อหาเพิ่มเติมกับลูกความ คือ ข้อหาปลุกระดมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 124 ( เอ ) เกี่ยวกับการยุยงปลุกปั่น และมาตรา 50 ( เอ ) ของกฎหมายต่อต้านการก่อการร้าย


ทั้งนี้ หากศาลพิพากษาว่ามีความผิดจริงในข้อหาก่อการร้าย เฟนสเทอร์ วัย 37 ปี อาจต้องรับโทษจำคุกตลอดชีวิต ขณะที่ข้อหาอื่นมีบทลงโทษจำคุกมากน้อยลดหลั่นกันไป ปัจจุบัน เฟนสเทอร์ตกเป็นจำเลยในอย่างน้อย 5 ข้อหา โดยที่เหลืออีก 3 ข้อหา ได้แก่ การร่วมกิจกรรมชุมนุมทางการเมืองที่ผิดกฎหมาย การปลุกระดมให้ต่อต้านรัฐบาลทหาร และการละเมิดกฎหมายตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งทนายความพยายามโต้แย้งแล้วว่า เอกสารการเดินทางทั้งหมดของเฟนสเทอร์ยังคงมีอายุการใช้งานอยู่ ในวันถูกจับกุมที่ท่าอากาศยานนานาชาติย่างกุ้ง เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา


ด้านกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการต่อการที่เฟนสเทอร์ถูกดำเนินคดีเพิ่ม โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงสัปดาห์ดียว หลังนายบิล ริชาร์ดสัน อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) เข้าพบพล.อ.มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่ทำเนียบในกรุงเนปิดอว์ แม้รัฐบาลทหารเมียนมา เปิดเผยว่า ประเด็นส่วนใหญ่ของการสนทนาเกี่ยวข้องกับกระบวนการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมา เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่มีรายงานว่า ริชาร์ดสันหยิบยกเรื่องของเฟนสเทอร์ขึ้นมา “เจรจา” กับ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย.

เครดิตภาพ : REUTERS