วันนี้ (12 ก.ค.) นางบุษยา สถิรพิพัฒน์กุล ผู้บริหารหน่วยธุรกิจดูแลลูกค้าและสิทธิประโยชน์ บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า การระบาดของโควิด-19 จนภาครัฐสั่งให้มีการล็อกดาวน์ ได้ส่งผลกระทบต่อร้านค้ารายย่อย หาบเร่แผงลอย ที่ขายอาหาร และสินค้าต่างๆ มากกว่า 1 ล้านร้านค้า ทางเอไอเอส จึงได้ออก “มาตรการพารอด” เพื่อเป็นช่องทางให้ร้านค้ารายเล็กๆ เพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและรับชำระผ่านแอพพลิเคชั่น “เอไอเอส พารวย” ด้วยพอยท์ของลูกค้าเอไอเอ โดยไม่มีค่าธรรมเนียม พร้อมยังช่วยโปรโมตร้านค้าบน แอพ มาย เอไอเอส และ เอไอเอส วี- อเวนิวดอทโค (AIS V-AVENUE.CO) ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าเสมือนจริง ที่เข้าถึงผู้ใช้งานกว่า 1 ล้านครั้งต่อวัน เพื่อเป็นการกระตุ้นการจับจ่ายให้เกิดรายได้กับบรรดาร้านค้ารายเล็กๆ ให้สามารถดำเนินธุรกิจ ต่อไปได้ ในภาวะวิกฤตินี้
“ร้านค้ารายเล็กๆ ที่ใช้เบอร์เอไอเอส สามารถดาวน์โหลดแอพ เอไอเอส พารวย ได้ที่ แอพ สโตร์ และ กูเกิล เพลย์ แล้วสมัครเป็นพาร์ทเนอร์ด้วยการกรอกข้อมูลต่างๆ หลังจากนั้นใน 5 นาที ก็จะได้เป็นเอไอเอส พอยท์ พาร์ทเนอร์ สามารถตัดพอยท์เป็นส่วนลดเมื่อมีลูกค้าซื้อสินค้า โดย 1 พอยท์ จะมีมูลค่า 50 สตางค์ สามารถเลือกชำระด้วยพอยท์ได้เต็มจำนวนที่ใช้จ่าย ไม่ต้องใช้เงินสด หรือ ใช้ พอยท์ คู่กับเงินสด ก็ได้ โดยไม่มี โควต้าจำกัด ไม่มีค่าธรรมเนียม และเงินจะถูกโอนเข้าบัญชีร้านค้าในวันรุ่งขึ้นทันที”
นางบุษยา กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน เอไอเอสมีฐานลูกค้าอยู่ 42.7 ล้านราย เป็นผู้สมัครใช้งานเอไอเอสพอยท์ 17 ล้านราย ซึ่งหลังจากได้ เปิดบริการอย่างไม่เป็นทางการ (Soft launch) ตั้งแต่ 1-11 ก.ค. มีร้านค้ารายย่อยร่วมโครงการแล้ว 1,000 ร้านค้า คาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 แสนร้านค้า และมีลูกค้าเอไอเอส เข้ามาสมัคร เอไอเอสพอยท์ เพิ่มขึ้นเป็น 20 ล้านคน ซึ่งเชื่อว่าโครงการนี้จะเป็นประโยชน์กับ ร้านค้ารายเล็ก ไปจนถึง ร้านอาหารตามสั่ง แผงผัก ผลไม้ ฯลฯ ตามชุมชนต่างๆ ขายสินค้าได้มากขึ้น และลูกค้าเอไอเอสก็สามารถประหยัดเงินได้ในช่วงวิกฤติโควิด-19 แบบนี้
“โจทย์ของเราคือจะทำอย่างไรให้สามารถเชื่อมต่อ ช่วยเหลือ สนับสนุน รักษาไว้ได้ทั้งร้านค้ารายเล็ก ที่เป็นเสมือนหนึ่งฟันเฟืองจำนวนมหาศาลที่มีผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับฐานราก และร่วมลดภาระค่าใช้จ่ายของลูกค้า เอไอเอส ผ่านความแข็งแกร่งของเรา จึงเป็นที่มาของการนำเสนอ “มาตรการพารอด” เพื่อเป็นเครื่องมือในการทำให้ภารกิจนี้สำเร็จได้ตามความตั้งใจ” นางบุษยา กล่าว
