หลับตาลงแล้วจินตนาการว่ากำลังยืนอยู่บนเนินเขา ท่ามกลางดอกไม้สีเหลืองที่กำลังบานสะพรั่งเต็มท้องทุ่ง มีลมพัดมาอ่อน ๆ มองเห็นลานกางเต็นท์ซึ่งเป็นที่พักอยู่ไม่ไกล

ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 นี้ ภาพที่ว่านั้นจะไม่ใช่เพียงความฝันหรือจินตนาการ แต่ดอกบัวตองแห่งดอยแม่อูคอ มีนัดพร้อมใจกันบานสะพรั่งเต็มที่ทั่วทั้งดอย และพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว ด้วยมาตรการควบคุมด้านสุขอนามัยแบบเต็มที่ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ว่าที่ร้อยตรี ภาณุวัฒน์ ขัดนาค ผอ.ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า จังหวัดแม่ฮ่องสอนร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแม่ฮ่องสอน ชวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยว “เทศกาลดอกบัวตองบานบนดอยแม่อูคอ” ประจำปี 2564 ในปีนี้นักท่องเที่ยวจะได้ชมความสวยงามของดอกบัวตอง ที่บานสะพรั่งเหลืองอร่ามทั่วหุบเขาบนดอยแม่อูคอกว่า 500 ไร่ เป็นทุ่งดอยบัวตองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ล้อมรอบด้วยหุบเขาสลับซับซ้อน

“เราจะสามารถมองเห็นดอกบัวตองได้ตั้งแต่ทางขึ้นไปจนถึงจุดชมวิว ที่สำคัญ ปีนี้จะได้ชมความงามของต้นไม้และดอกไม้ชนิดอื่นที่มีการปลูกเสริมเพื่อเพิ่มสีสันความสวยงามให้กับทุ่งบัวตอง อาทิ ต้นนางพญาเสือโคร่ง และต้นคริสต์มาส คาดว่าจะสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นพิเศษกว่าทุกปี”

ช่วงเดือนพฤศจิกายนถือเป็นช่วงที่พีคสุด ๆ ดอกบัวตองส่วนใหญ่จะบานเต็มที่ แนะนำให้มาในช่วงสัปดาห์ที่ 2 และสัปดาห์ที่ 3 ซึ่งจะเป็นช่วงที่ดอกบัวตองจะบานสะพรั่งอย่างเต็มที่ ก่อนจะเริ่มโรยราในช่วงต้นเดือนธันวาคม นอกจากนั้นยังมีเส้นทางเดินทางเชื่อมโยงไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่นในอำเภอขุนยวมด้วย

อาทิ อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ มีน้ำตกแม่สุรินทร์ เป็นน้ำตกชั้นเดียวที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงชัน ความสูงประมาณ 80 เมตร และนับเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย สายน้ำสีขาวที่ทิ้งตัวลงมาจากภูเขาสูงท่ามกลางผืนป่าอันบริสุทธิ์ที่โอบล้อม สายน้ำที่ไหลมาบรรจบกับความงามของทิวเขาได้อย่างลงตัว ทั้งยังมียอดดอยปุย ยอดเขารูปร่างคล้ายฝาชี ข้างบนยอดแบนราบปกคลุมด้วยทุ่งหญ้าป่าสนเขาและป่าดิบเขาคล้ายบนยอดภูกระดึง ในฤดูร้อนดอกไม้ตามทุ่งหญ้าออกดอกสวยงาม บนนี้มีสภาพอากาศหนาวจัด ทำให้มีพันธุ์ไม้เมืองหนาวขึ้นอยู่ทั่วไป และเส้นทางเดินป่าห้วยแม่สะกึดทอดขนานไปกับลำน้ำเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกนานาชนิด

Posaho Cafe’ กาแฟเด็กน้อยทำอร่อย ร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่บนดอยแม่อูคอ ในอำเภอขุนยวม คาเฟ่แห่งความฝันของเหล่าบาริสต้าตัวน้อยวัยประถม ณ ชุมชนปกาเกอะญอกลุ่มเล็ก ๆ จุดเริ่มต้นของการทำให้ชาวชุมชนเห็นคุณค่าในตัวเองและสร้างมูลค่าความเป็นหมู่บ้านแห่งธรรมชาติ ตั้งอยู่หน้าทุ่งนาบ้านหัวแม่สุริน นาขั้นบันไดที่กว้างใหญ่ไพศาล ดื่มด่ำกับบรรยากาศทุ่งนาสีทอง นั่งฟังเสียงนก เสียงชะนี ที่แวะมาทักทาย ก่อนจะไปยังจุดหมายต่อไป

อ่างเก็บน้ำห้วยสอตือ อันซีนแห่งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเวียงหล้า ทะเลสาบที่ดูสงบนิ่งมีไม้ยืนต้นตายกระจายตัวอยู่ทั่วไป สร้างบรรยากาศทั้งเหงาและสงบไปพร้อมกัน

บ้านเมืองปอน ชุมชนเล็ก ๆ กลางหุบเขาที่มีอายุมากกว่าร้อยปี ที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตชุมชนชาวไทใหญ่ไว้ดังเดิม สัมผัสวิถีความเป็นอยู่เรียบง่าย ปลูกข้าวรอบบ้าน ปลูกพืชผักสวนครัวกินเอง ทำหัตถกรรมใช้เองภายในครัวเรือนและชุมชน เช่น การทำเชือกหมวก การทำเสื้อผ้าแบบชาวไทใหญ่ใส่เอง ในช่วงเทศกาลงานประเพณีต่าง ๆ ชาวไทใหญ่จะสวมหมวกกุ๊บไต ปักฉลุลายเสื้อไต ขายดอกเอื้องตึง กันดู

อย่าลืมลองนวดแผนโบราณแบบชาวไทใหญ่ ชิมข้าวปุ๊ก ขนมท้องถิ่น ภูมิปัญญาและประเพณีต่าง ๆ ของชาวไทใหญ่ที่บ้านเมืองปอน ล้วนสะท้อนมาจากวิถีชีวิตประจำวันหลังทำนา ผู้คนที่นี่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย จนกลายมาเป็นเอกลักษณ์ของชุมชน

วัดต่อแพ วัดเก่าแก่ทางฝั่งขวาของลำน้ำยวม เดิมเป็นวัดร้าง สันนิษฐานว่าเป็นวัดของชาวลัวะ หรือละว้า ที่สร้างขึ้นมานานแล้ว โดยเหลือเพียงแค่ซากเจดีย์เก่าที่มีต้นไม้ขึ้นอยู่ตรงกลาง และไม่มีใครกล้าเข้ามาในบริเวณนี้เนื่องจากเล่าลือกันว่าผีดุ ต่อมาชาวบ้านได้นิมนต์เจ้าอาวาสวัดต่อแพเก่า ให้มาทำการบูรณะวัด โดยมีคณะศรัทธาบ้านเมืองปอน บ้านขุนยวม และบ้านต่อแพ ร่วมกันสร้างศาลาการเปรียญขึ้นมาเมื่อราวปี พ.ศ. 2461

ชมศาลาการเปรียญ อาคารสถาปัตยกรรมพม่าผสมไทใหญ่ที่สวยงามที่สุดในอำเภอขุนยวม และยังมีสภาพสมบูรณ์ ตัวอาคารหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ก่อสร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง มีความกว้างประมาณ 30 เมตร และยาวประมาณ 25 เมตร หลังคาซึ่งมีหลายชั้นแยกออกจากกันเป็นหลัง ๆ มุงด้วยสังกะสีที่สลักลวดลายสวยงาม วัตถุโบราณล้ำค่าหลายชิ้น เช่น ผ้าม่านเก่าแก่อายุกว่า 150 ปี ทำในพม่าด้วยกำมะหยี่ กว้าง 1.65 เมตร ยาว 3.80 เมตร ประดับลูกปัด มุก และทับทิม 164 เม็ด เป็นเรื่องพุทธประวัติ ตอนพระเวสสันดรเสด็จประพาสอุทยาน ตู้พระธรรมซึ่งนำมาจากเมืองมะละแหม่ง แกะสลักอย่างสวยงาม 2 ใบ ธรรมาสน์สร้างใน พ.ศ. 2464 และพระพุทธรูปล้ำค่าอีกหลายองค์

น้ำพุร้อนหนองแห้ง บ่อน้ำร้อนขนาดกลาง 2 บ่อ มีน้ำเดือดตลอดเวลา อาจกล่าวได้ว่าเป็นน้ำพุที่ร้อนที่สุดในจังหวัดแม่ฮ่องสอน สามารถต้มไข่ให้สุกได้ภายในระยะเวลาไม่ถึง 10 นาที ตั้งอยู่ที่บ้านหนองแห้ง ตำบลเมืองปอน

ก่อนกลับอย่าลืมไปเช็กอินแลนด์มาร์คแห่งใหม่ “สะพานคีรีดล” หรือ “สะพานกิ่วลม” อยู่ในเขตอำเภอขุนยวม เชื่อมโยงกับอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ (ถนนหมายเลข 1263) สะพานที่เพิ่งสร้างเสร็จแห่งนี้เป็นจุดพักถ่ายรูป และสามารถมองเห็นวิวทิวเขาสลับซับซ้อน สวยที่สุดในช่วงเช้าที่มีหมอกลงปกคลุม

สำหรับปีนี้มีการจัดเตรียมจุดกางเต็นท์เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว 3 จุด ได้แก่ ลานกางเต็นท์โซน 1/ลานจอดรถ รองรับได้ 200 เต็นท์ จอดรถได้ 150 คัน ติดต่อวนอุทยานทุ่งบัวตอง โทร.09-3041-2758, 06-2389-9236, 09-6938-1882 ลานกางเต็นท์โซน 2/ลานจอดรถ รองรับได้ 50 เต็นท์ จอดรถได้ 20 คัน ติดต่อ องค์การบริหารส่วนตำบลแม่อูคอ โทร. 0-5361-5987 และลานกางเต็นท์โซน 3/ลานจอดรถ รองรับได้ 20 เต็นท์ จอดรถได้ 20 คัน ติดต่อโทร. 08-1951-2085, 08-9850-0501 นำเต็นท์มาเอง คนละ 50 บาท หรือเต็นท์พร้อมเครื่องนอน หลังละ 350 บาท พักได้ 2 คน

ผู้ที่จะเดินทางเข้าไปยังวนอุทยานทุ่งบัวตองแม่อูคอได้ นอกจากจะต้องผ่านการคัดกรองจากทางเจ้าหน้าที่แล้ว ยังจะต้องมีใบรับรองการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือใบรับรองผลการตรวจทาง ATK มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ด้วย สอบถามข้อมูลการเดินทางได้ที่ อำเภอขุนยวม โทร.0-5369-1108 สำนักงานเทศบาลตำบลขุนยวม โทร.0-5369-1019 และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแม่ฮ่องสอน โทร.0-5361-2982-3 หรือดูที่ Facebook : TAT Maehongson