สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ว่า นพ.ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการฝ่ายโครงการฉุกเฉินด้านสาธารณสุขขององค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในทวีปยุโรป ว่าในภาพรวมถือเป็นภูมิภาคที่มีวัคซีน “เหลือเฟือ” แต่การใช้งานวัคซีนกลับไม่มากเท่าปริมาณของผลิตภัณฑ์ที่มี ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ ว่าเพราะเหตุใดอัตราการติดเชื้อในรอบ 4 สัปดาห์ล่าสุดของยุโรป จึงเพิ่มขึ้นมากถึง 55%


ขณะที่ นพ.ฮันส์ คลูเกอ ผู้แทนดับเบิลยูเอชโอ ประจำภูมิภาคยุโรป กล่าวว่า ทวีปยุโรปกำลังเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 “อีกครั้ง” หากทุกฝ่ายยังคงปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไป ภายในวันที่ 1 ก.พ. ปีหน้า ยุโรปและเอเชียกลางจะมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นรวมกันอีกมากกว่า 500,000 ราย เฉพาะในสัปดาห์นี้ ยุโรปและเอเชียกลางมีผู้ป่วยใหม่ยืนยันรวมกันเกือบ 1.8 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6% จากสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนสถิติผู้เสียชีวิตในรอบสัปดาห์ล่าสุด อยู่ที่ประมาณ 24,000 ราย เพิ่มขึ้น 12% จากสัปดาห์ที่แล้ว


ทั้งนี้ นพ.คลูเกอ กล่าวเสริมเรื่องการแจกจ่ายวัคซีนในภูมิภาคแห่งนี้ว่า แม้สัดส่วนโดยรวมถือว่า 47% ของประชากรได้รับวัคซีนครบแล้ว แต่เมื่อจำแนกออกเป็นรายประเทศ ปรากฏว่า มีเพียง 8 ประเทศ ที่ฉีดวัคซีนครบคอร์สได้ครอบคลุม 70% ของประชากร แต่ 43 จาก 53 ประเทศ มีอัตราการครองเตียงในห้องไอซียูเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว.

เครดิตภาพ : AP