เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ช่วงค่ำวันที่ 29 ต.ค. พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระนักเทศน์ชื่อดังแห่งวัดสร้อยทอง ได้ไลฟ์สด โดยมีช่วงหนึ่งพระมหาไพรวัลย์ ระบุว่า พระราชปัญญาสุธี (อุทัย ฌาโณทโย) รักษาการเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง เปรียบเสมือนพ่อและครูอาจารย์ การที่ท่านไม่ได้เป็นเจ้าอาวาส หากมาจากอาตมาที่นำปัญหามาให้ ก็จะขอสละสมณเพศ และหากสละสมณเพศแล้ว จะขอกลับไปดูแลแม่ที่ป่วย และจะทำประโยชน์ในฐานะฆราวาส ยืนยันว่าจะไม่ย้ายไปอยู่วัดอื่น เพราะไม่ใช่วิธีรักษาความเป็นธรรมให้พระราชปัญญาสุธี

ขณะที่ก่อนหน้านี้ พระมหาสมปอง ตาลปุตโต วัดสร้อยทอง ก็เคยพูดผ่านการไลฟ์สดเช่นเดียวกันว่า ถ้าท่านเจ้าคุณอุทัย (พระราชปัญญาสุธี) ไม่ได้เป็นเจ้าอาวาส จะขออนุญาตเจ้าอาวาสท่านใหม่ ว่า จะขออยู่ต่อสัก 2 ปี แล้วกัน เนื่องจากยังมีภารกิจอีกมาก และวันที่ 3 พ.ย.2566 ก็จะตาม พระมหาไพรวัลย์ ออกไป

ด้านนายสิปป์บวร แก้วงาม รอง ผอ.รักษาราชการผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ไม่ทราบว่าท่านทั้งสองไปนำประเด็นเรื่องเจ้าอาวาสมาจากไหน หรืออาจจะเห็นจากนโยบายของพระธรรมวชิรมุนี (บุญชิต ณาณสังวโร) เจ้าคณะกรุงเทพฯ ที่มีนโยบายในการจะดูความประพฤติของพระสงฆ์ที่มีการออกทางสื่อออนไลน์ด้วย แล้วจึงอาจจะทำให้โยงไปถึงเรื่องเจ้าอาวาส ซึ่งการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดที่เป็นพระอารามหลวงนั้น ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2561 และกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ.2541) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ แก้ไขเพิ่มเติม ครั้งที่ 1 (พ.ศ.2563) ระบุว่า การแต่งตั้งเจ้าคณะใหญ่ เจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด และเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ให้เป็นไปตามพระราชดำริ ซึ่ง มส.ได้มีมติเสนอรายชื่อผู้จะเป็นเจ้าอาวาสวัดสร้อยทองไปแล้ว ทั้งนี้ตนมองว่า ไม่ว่าใครจะมาเป็นเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง ท่านพระมหาไพรวัลย์ และพระมหาสมปอง ก็เป็นพระลูกวัดเช่นเดิม หากไม่ได้ทำผิดอะไรก็ไม่มีใครไปสึกท่านได้

ทั้งนี้มีรายงานว่า ในการประชุมมส.เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีมติรับรองการประชุม การเสนอแต่งตั้งเจ้าอาวาสพระอารามหลวง จำนวน 5 รูป โดยมีการเสนอรายชื่อ พระราชปัญญาสุธี (อุทัย ฌาโณทโย) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง รองเจ้าคณะภาค 11 และผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง ให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดสร้อยทองรวมอยู่ด้วย.