สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 29 ต.ค.ว่าเติงกู ซาฟรุล อับดุล อาซิซ รมว.การคลังของมาเลเซีย แถลงเมื่อวันศุกร์ ประกาศแผนการใช้จ่ายงบประมาณ 332,100 ล้านริงกิต ในปีหน้า (ราว 2.65 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นจาก 320,600 ล้านริงกิตในปีนี้ (ราว 2.56 ล้านล้านบาท) ถือเป็นแผนการใช้จ่ายงบประมาณสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของมาเลเซีย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้พื้นตัวเร็วยิ่งขึ้น จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ทั้งนี้ การใช้จ่ายในโครงการพัฒนาจะเพิ่มขึ้นอีก 21.9% เป็น 75,600 ล้านริงกิตในปีหน้า (ราว 605,393.29 ล้านบาท) และยังจะมีการจัดสรรงบประมาณส่วนหนึ่ง เพื่อการช่วยเหลือประชาชนที่ยากจน ครัวเรือนละ 2,000 ริงกิต (ราว 16,024.24 บาท)

เติงกู ซาฟรุล อับดุล อาซิซ รมว.การคลังของมาเลเซีย แถลงแผนการใช้จ่ายของรัฐบาล ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในกรุงกัวลาลัมเปอร์


ขณะเดียวกัน เติงกูซาฟรุลคาดการณ์ มาเลเซียจะมีรายได้เข้าประเทศ 234,000 ล้านริงกิต (ราว 1.87 ล้านล้านบาท) ในปี 2565 เพิ่มขึ้น 5.9% รวมถึงผลประกอบการจากเปโตรนาส ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติ ด้านการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอยู่ที่ระหว่าง 5.5-5.6% ในปีหน้า เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ไว้ที่ระหว่าง 3-4% ในปีนี้ เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศกลับคืนสู่สภาวะปกติมากขึ้น และความต้องการสินค้าจากต่างประเทศที่เริ่มกลับเข้ามามากขึ้น


ส่วนการขาดดุลงบประมาณของมาเลเซียในปีหน้านั้น เติงกูซาฟรุลคาดการณ์ไว้ที่ 6% ลดลงจาก 6.5% ในปีนี้ อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลมีแผนใช้จ่ายมากขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจองประเทศ มาตรการรักษาสมดุลทางการคลัง หรือมาตรการรัดเข็มขัด อาจต้องดำเนินไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปสักระยะหนึ่งก่อน.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES, AP