นายวีระพงศ์ โก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) เปิดเผยในงานสัมมนาออนไลน์ Lazada Seller Opportunity Day 2021 ว่า จากสถานการณ์โควิด-19  ทำให้คนไทยเปลี่ยนพฤติกรรมมาซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น ซึ่งจากผลวิจัยของกูเกิลคาดการณ์ว่า ตลาดอีคอมเมิร์ซไทยจะเติบโตปีละ 20% แต่ลาซาด้าพบว่าช่วงโควิด-19 ระบาด ในแต่ละเดือนตลาดโตมากกว่า 20% ขณะที่ลาซาด้า ก็ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และจำนวนผู้ซื้อเพิ่มขึ้น 1.5 เท่า จากปี 63 และปัจจุบันประเทศไทยติดท็อป 2 ที่ซื้อสินค้าออนไลน์ในลาซาด้ามากที่สุด ใน 6 ประเทศที่ได้ข้าไปทำธุรกิจในภูมิภาคนี้

“ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 63 จนถึง ก.ย. 64 สินค้าอุปโภคบริโภคมีการเติบโตสูงสุด ตามมาด้วยสินค้าอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน และรองลงมาคือสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพที่มีการเติบโตมากกว่า 12 เท่า ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภค ที่ใช้ชีวิตอยู่บ้านมากขึ้นและให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสุขภาพมากขึ้น”

น.ส.มัณฑนา หล่อไกรเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า จากผลสำรวจการซื้อของออนไลน์ของคนไทยช่วงโควิด-19 พบว่า คนไทย 64% จ่ายเงินซื้อของออนไลน์สูงขึ้น และจำนวน 88% มีความคุ้นชินกับการซื้อของออนไลน์  และ 94% จะยังซื้อของออนไลย์ต่อไปแม้วิกฤติโควิด-19 จะคลี่คลายแล้ว สำหรับความถี่ในการซื้อสินค้าออนไลน์ จำนวน 30% ซื้อเดือนละครั้ง และ 49% ซื้อสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และมียอดใช้จ่ายสูงสุดอยู่ที่ 1,000-8,000 บาทต่อครั้ง

สำหรับในช่วงที่ผ่านมาลาซาด้า ได้จัดแคมเปญอย่างต่อเนื่อง ทั้งในช่วงกลางเดือน ปลายเดือน ลดราคาเพิ่ม 6  ต่อ สินค้ามาขายในราคาถูกพิเศษ โปรแกรม ช้อป 9 บาททุกวัน ฯลฯ เพื่อให้ลูกค้าสามารถจับจ่ายซื้อออนไลน์ได้ทุกวัน ส่วนช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ ลาซาด้ายังมีการจัดแคมเปญกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง อาทิ แคมเปญ 11.11 และ 12.12  โดยเฉพาะ 11.11 ซึ่งเป็นเทศกาลช้อปออนไลน์ระดับโลกที่ทุกคนรอคอย โดยจะมีสินค้าลดราคาสูงสุดถึง 90% เมื่อซื้อสินค้าครบ 500 บาท ได้รับเงินคืน 50 บาท และส่งสินค้าฟรี ฯลฯ ซึ่งจะมีการจัดงานอีเวนต์ใหญ่ พร้อมดารามากกว่า 50 คน โดยมั่นใจว่า ช่วงเทศกาล 11.11 ในปีนี้จะมียอดคำสั่งซื้อโตขึ้น 2 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว.