เมื่อวันที่ 6 ก.ค. หมออั้ม-อิราวัต อารีกิจ อดีตนักร้องค่ายอาร์เอส ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า จากการกดดัน ของสังคมออนไลน์ทั้งแพทย์ ทั้งบุคลากรการแพทย์ ทั้งอินฟลูเอนเซอร์ ไอดอลแฟนเพจ ดารา-บุคคลสาธารณะ ฯลฯ ทำให้ผู้มีอำนาจ ยอมรับแล้ว ออกมายอมให้ บุคลากรแพทย์ด่านหน้าที่เคยฉีด Sinovac เข็ม 1-2 ได้บูสเข็ม 3 ด้วย mRNA Vaccine หรือ Astra Zeneca เป็นอย่างน้อย

สิ่งนี้ตอกย้ำได้ดี ว่า Sinivac ไร้ค่าไร้ค่า ต่อบุคลากรด่านหน้า/คนไข้ ไร้ค่า ต่อประชาชนคนไทย แพงกว่า แต่ห่วยกว่า ทุกมิติตอกหน้าไอ้หมอ เวชบริกร ที่ทำตัวเป็นเซลส์ ขาย Sinovac เอาจนมันไม่มีที่ยืน จนต้องปิดเพจ ต้องไลน์แก้ตัวในกลุ่ม เลิ่กลั่กๆ ไปทั่ว มันไม่จบแค่นี้หรอกครับ ผมคนหนึ่งที่ไม่ยอม และเชื่อว่าคนอีกหลายล้านคน คิดเหมือนผม

นาทีนี้ผมขอรณรงค์ให้ แจกชุดตรวจโควิด แจกทุกบ้าน ทุกครัวเรือน เดือนละ 5 ชุด/คน และแก้กฎหมาย ให้มีจำหน่ายได้ ตามร้านขายยา-สถานพยาบาลใกล้บ้านจะชนะไวรัสได้ต้องไวกว่ามัน ต้องรู้ก่อนมัน ป้องกันไม่ให้มันระบาด

ถึงฉีดวัคซีนแล้ว ก็ต้องตรวจครับ!!ฝากทุกท่านเป็นกระบอกเสียงช่วยกันจับตา และทำสิ่งดีดีเพื่อสังคมร่วมกันรณรงค์ เพื่อชีวิตเขาชีวิตเราเพื่อคนทั้งประเทศครับ ประชาชนต้องเข้าถึงชุดตรวจโควิด19

ด้านรศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์  ได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Jessada Denduangboripant โดยระบุว่า ขณะที่ฝากแชร์คลิปวีดีโอ “จดหมายเปิดผนึก” นี้ไปให้ถึงผู้บริหาร ศบค. รัฐบาล นักการเมือง สื่อมวลชน รวมถึงประชาชนทุกคน นะครับว่าอย่าหลงทางอีกเลย หลังจาก 1 ปีกว่ามาแล้วที่เรารับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยที่มุ่งจะเอาชนะเชื้อโรค … แล้วสุดท้าย กลับนำมาสู่การล่มสลายของระบบสาธารณสุขไทย !!

ทางออกของการรับมือกับโควิด ไม่ใช่การเอาชนะเชื้อโรคด้วยวิธี lock down ประเทศ แต่คือการหาทาง อยู่ร่วมกับมันให้ได้อย่างปลอดภัยที่สุด เท่าที่จะทำได้ โดยไม่ทำให้ระบบเศรษฐกิจ สังคม และการศึกษา ล่มสลาย ซึ่งเครื่องมือสำคัญที่นานาอารยประเทศใช้ ก็คือ การระดมตรวจอย่างกว้างขวาง ทั่วถึง รวดเร็ว ด้วย ชุดตรวจแอนติเจนแบบเร่งด่วน antigen rapid test ที่ประชาชนสามารถใช้ได้เอง

ตามด้วยการแยกผู้ติดเชื้อ ที่ไม่มีอาการป่วย (สีเขียว) หรือมีอาการป่วยน้อย (สีเหลือง) ไป กักตัวไว้ที่บ้าน แบบ home isolation เป็นเวลา 14 วันจนหายเองได้ และไม่แพร่เชื้อให้คนอื่น

ถ้ายังใช้วิธีการเดิมๆ ที่ กลัดกระดุมผิดเม็ด มาตั้งแต่วันแรก คือ “ให้ผู้ติดเชื้อโควิดทุกคน ต้องเข้าโรงพยาบาล แม้ว่าจะไม่ป่วยก็ตาม” นั่นย่อมนำมาสู่การล่มสลายของระบบสาธารณสุขไทยแน่ๆ เพราะเตียงโรงพยาบาลก็ไม่พอ โรงพยาบาลสนามก็ไม่พอ

ที่สำคัญคือ โรคนี้ก็จะอยู่กับเราไปอีกนาน แม้ว่าจะมีวัคซีนมา ก็จะมีการกลายพันธุ์เกิดขึ้นเรื่อยๆ ตามมาด้วย .. ถ้าไม่มีกลไกในการ แยกปลาจากน้ำ แล้วจะเอาอะไรไปรับมือกับมันไหว หวังว่าทุกคนจะรับฟัง และเข้าใจนะครับ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป !

ขอบคุณข้อมูลจากเพจ อ.เจษฎาและหมออั้ม