เมื่อวันที่ 5 พ.ย. นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์อุบัติเหตุรถโดยสาร เส้นทางกรุงเทพฯ – อุตรดิตถ์ หมายเลขทะเบียน 15 – 5754 กรุงเทพฯ ชนกับรถบรรทุก ทำให้รถโดยสารเสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทาง บริเวณบ้านกลาง (ขาออก) ทางหลวงหมายเลข 103 ถนนวังซ้าย ต.บ้านกลาง อ.สอง จ.แพร่ เมื่อเวลา 05.27 น. ของวันที่ 5 พ.ย.67 ส่งผลให้มีผู้โดยสารบาดเจ็บ 17 ราย และเสียชีวิต 1 ราย โดยตนขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้สั่งกำชับให้ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เร่งให้ความช่วยเหลือ ดูแลผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บ และครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ และให้รายงานเหตุการณ์เป็นระยะ 

รวมทั้งได้เน้นย้ำความปลอดภัยในการให้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยพนักงานขับรถโดยสารต้องพร้อม พักผ่อนให้เพียงพอ แอลกอฮอล์ และสารเสพติดเป็นศูนย์ จัดให้มีพนักงานขับรถ 2 คน ในเส้นทางที่มีระยะทางเกิน 400 กิโลเมตร ให้ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด กรณีต้องเดินรถในเส้นทางที่เป็นถนนขนาด 2 ช่องจราจร ไป – กลับหรือในช่วงที่มีฝนตก ถนนลื่น ต้องใช้ความระมัดระวังพิเศษในการขับขี่ เพื่อความปลอดภัยและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

ด้านนายอรรถวิท รักจำรูญ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. กล่าวว่า บขส. ได้มอบหมายให้ผู้บริหารฝ่ายธุรกิจเดินรถ และนายสถานีเดินรถแพร่และพะเยา ลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือ และประสานงานอำนวยความสะดวก ซึ่งผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บ 17 ราย ได้นำส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแพร่ 14 ราย โรงพยาบาลสอง 2 รายและ โรงพยาบาลพะเยา 1 ราย ส่วนผู้โดยสารอีก 28 ราย บาดเจ็บเล็กน้อยได้เดินทางกลับบ้านเรียบร้อยแล้ว 

สำหรับรถโดยสารคันดังกล่าว บรรทุกผู้โดยสาร จำนวน 46 คน เดินทางออกจากกรุงเทพฯ เวลา 19.30 น. เมื่อวันที่ 4 พ.ย.2567 เพื่อเดินทางไป อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลความเร็วรถ จากระบบ GPS พบว่า มีการใช้ความเร็วอยู่ที่ 78 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างดำเนินการ ทั้งนี้ บขส. พร้อมเยียวยาผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บ และครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ โดยรถโดยสารคันเกิดเหตุได้ทำประกันภัยกับบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน).