นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงเป้าหมายในการปรับวิสัยทัศน์ใหม่ขององค์กร เพื่อมุ่งสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับหนึ่งในด้านความใส่ใจ ว่า กรุงเทพประกันชีวิตได้ดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของการใส่ใจมาอย่างยาวนาน และถือเป็นจุดแข็งขององค์กร หลายปีที่ผ่านมาบริษัทได้นำแนวทางการทำงานอย่างใส่ใจมาใช้ในด้านต่างๆ ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ บุคคลากรของบริษัทรวมถึงตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาทางการเงิน และบริการเสริม BLA Every Care ที่ตอบโจทย์ความใส่ใจลูกค้าแบบครบวงจร ซึ่งจากการสำรวจกลุ่มลูกค้า พบว่า เมื่อนึกถึงกรุงเทพประกันชีวิต ลูกค้าต่างพูดถึงเรื่องความใส่ใจมาเป็นอันดับต้น ๆ
“เราเชื่อว่า พลังของการใส่ใจนั้นมีผลต่อแบรนด์กรุงเทพประกันชีวิตอย่างมาก จึงมุ่งหวังให้ กรุงเทพประกันชีวิต เป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับหนึ่งด้านความใส่ใจในทุกมิติ ตั้งแต่ลูกค้า ตัวแทน ที่ปรึกษาทางการเงิน พันธมิตรทางการค้า พนักงาน ผู้ถือหุ้น สังคมและสิ่งแวดล้อม” นายโชนกล่าว
ภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่นี้ เรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบประสบการณ์ที่เป็นเลิศจากความใส่ใจ เพิ่มความอุ่นใจให้กับผู้ถือกรมธรรม์ด้านความมั่นคงในชีวิต ผ่านตัวแทนที่มีความจริงใจ เทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์บริการที่ดี และ สิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของทุกเจนเนอเรชั่น สำหรับตัวแทนและที่ปรึกษาทางการเงิน เราส่งเสริมการเพิ่มศักยภาพของทีมงานให้สามารถทำงานได้อย่างไร้ขีดจำกัด พร้อมรับมือกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งสร้างพลังบวกและการตระหนักรู้ถึงคุณค่าของการใส่ใจ เพื่อให้ทุกคนสามารถส่งต่อการให้บริการที่ประทับใจไปสู่ลูกค้าอย่างดีที่สุด และสำหรับพนักงาน เราส่งเสริมให้ทุกคนมีความสุข มีความก้าวหน้าและมีความมั่นคงในอาชีพ มีการเพิ่มพูนทักษะให้สามารถเติบโตได้อย่างมีคุณภาพ เคารพในความแตกต่าง ให้ความเสมอภาค ภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี
“สิ่งสำคัญคือ ความใส่ใจที่มีต่อสังคม ด้วยการส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้ด้านการวางแผนการเงินเห็นประโยชน์ในการทำประกันชีวิตและการมีสุขภาพที่ดีเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น และท้ายสุด เราให้การใส่ใจในสิ่งแวดล้อม เราพร้อมจะขับเคลื่อนองค์กร สู่การเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน บริหารจัดการด้านพลังงาน ทรัพยากรน้ำ และ ขยะ ซึ่งทั้งหมดเป็นการสร้างพลังของความใส่ใจและจะเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้เราเป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับหนึ่งด้านการใส่ใจและมีการเติบโตอย่างยั่งยืนในที่สุด” นายโชนกล่าว
ด้านนางสาวอรนาฎ นชะพงษ์ ผู้บริหารสายกลยุทธ์การตลาดและบริหารจัดการลูกค้า เปิดเผยถึงแนวคิดการปรับภาพลักษณ์องค์กรในครั้งนี้ว่า มาจากผลการสำรวจเพื่อต้องการหา Insight กลุ่มผู้บริโภคและลูกค้า ที่มีความคาดหวังต่อธุรกิจประกันชีวิต ซึ่งพบว่าคนแต่ละเจนเนอเรชั่นมีความต้องการที่ไม่เหมือนกันทั้งผลิตภัณฑ์ ช่องทางการขายและการบริการ แต่มีสิ่งหนึ่งที่คนทุกเจนคาดหวังและต้องการเหมือนกันคือ “ความใส่ใจ” ในบริการหลังการขาย ซึ่งการสื่อสารแบรนด์แคมเปญนี้จะช่วยให้ผู้บริโภคเห็นความแตกต่างและรับรู้ถึงความใส่ใจได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญในการขยายการรับรู้ และต้องการเข้าไปมีส่วนช่วยด้านการวางแผนการเงินในช่วงเริ่มต้นวัยทำงาน
“แคมเปญ “ใส่ใจ” ครั้งนี้ จะถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์โฆษณา 2 เรื่อง ซึ่งได้ผลมาจากงานวิจัยที่น่าสนใจ คือ ในยุคที่เทคโนโลยีมีผลกับชีวิตผู้คน ทำให้คนส่วนใหญ่มักใช้เวลาในการสร้างความสัมพันธ์ผ่านเทคโนโลยี จนละเลย หลงลืม ขาดความผูกพันที่อบอุ่น โดยเรื่องแรก จะสะท้อนความสัมพันธ์ที่เล็กแต่แข็งแรงที่สุด คือ คนในครอบครัว ด้วยความเชื่อที่ว่า พลังของความใส่ใจ ถ้าในสังคมไทยมีให้กันมากพอ จะทำให้ทุกคนมีความสุข ความอุ่นใจและความมั่นใจในการใช้ชีวิต ไม่ว่าสังคมจะพัฒนาด้านเทคโนโลยีไปอย่างไร เรื่องที่ 2 คือ เป็นการนำเสนอบริการเสริมที่ได้มาจากการทำวิจัยจากลูกค้าชื่นชอบ คือ Driving Home และ Home Health Care เป็นการดูแล ใส่ใจลูกค้า หากลูกค้าเจ็บป่วยต้องไปโรงพยาบาล หรือ มีการต้องพักรักษาตัวต่อที่บ้าน โดยมีกำหนดการเผยแพร่ภาพยนตร์โฆษณาในวันที่ 13 พฤศจิกายนศกนี้ ผ่านสื่อ TV, Out Of Home, Online และ KOL”