เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 67 ที่ห้องประชุมบุรฉัตร สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เป็นประธานในการส่งมอบแฟ้มสัญญาเช่า และการบริหารจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์ (Non Core) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ให้กับ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) ในฐานะบริษัทลูกของ รฟท. โดยนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่า รฟท. และพันตำรวจเอก ศุภกร ศุภศิณเจริญ รักษาการกรรมการผู้จัดการ SRTA เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพย์สินของ รฟท. และก่อให้เกิดรายได้สูงสุดแก่องค์กร โดย รฟท. ได้ส่งมอบแฟ้มสัญญาเช่าฯ 12,233 สัญญา
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อ สำหรับสัญญาเช่าฯ 12,233 สัญญา ประกอบด้วย 1.สัญญาฝ่ายบริหารทรัพย์สิน 5,856 สัญญา 2.สัญญาฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ 6,369 สัญญา และ 3. สัญญาฝ่ายอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม 8 สัญญา บนพื้นที่กว่า 38,469 ไร่ ซึ่ง SRTA จะนำไปบริหารจัดการสัญญาเช่า ซึ่งทรัพย์สินทั้งหมดนี้ยังเป็นกรรมสิทธิ์ของ รฟท. รวมทั้งจะต้องจัดสรรพื้นที่ และเจรจากับบุคคลที่สาม หรือร่วมทุนกับเอกชน เพื่อรับโอนพื้นที่ไปดำเนินการ และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมตั้งเป้าหมายว่าการให้ SRTA เข้ามาบริหารจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์ จะสามารถสร้างรายได้ให้ รฟท. เพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 3.7 พันล้านบาท เป็น 5 พันล้านบาทในปี 68
ด้านนายวีริศ กล่าวว่า เบื้องต้น SRTA ได้จัดทำแผนพัฒนาพื้นที่ที่ดินแปลงใหญ่ที่มีศักยภาพเชิงพาณิชย์ 28 แปลง ที่สามารถพัฒนาพื้นที่ และสร้างรายได้ให้แก่ รฟท.เป็น 3 ระยะ โดยระยะแรกจะดำเนินการในปี 68 จำนวน 7 แปลง ประกอบด้วย 1.โครงการบางซื่อ-คลองตัน (RCA), 2.โครงการศิลาอาสน์แปลงย่อย, 3.โครงการตลาดคลองสาน, 4. โครงการสถานีราชปรารภ (แปลง OA), 5.โครงการถนนพหลโยธิน (หัวมุม อ.ต.ก.), 6.โครงการย่านบางซื่อ (แปลง A2) สถานีขนส่ง และ 7.โครงการย่านสถานีหนองคาย (แปลง 5) ส่วนระยะที่ 2 และ 3 จะดำเนินการในปี 69–72 ทั้งนี้ SRTA จะต้องแบ่งผลตอบแทนให้กับ รฟท. 5% ของรายได้จากค่าบริหารสัญญา
นายวีริศ กล่าวต่อว่า คาดว่าในปี 68 บริษัท SRTA จะสามารถบริหารจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์ และสามารถเพิ่มรายได้ให้กับ รฟท. ประมาณ 4-5 พันล้านบาทต่อปี และมั่นใจว่าภายในการดำรงตำแหน่งผู้ว่า รฟท. 4 ปี จะมีรายได้จากการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ถึง 2 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังมีอีกประมาณ 50 สัญญาที่ยังไม่ได้ส่งมอบให้ SRTA เนื่องจากยังเป็นพื้นที่ที่มีปัญหา อาทิ มีผู้บุกรุก ซึ่ง รฟท. ต้องเร่งเคลียร์ให้จบ และส่งมอบให้ SRTA ต่อไป.