เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 67 ที่รัฐสภา นายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี  สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือจากนายสุธีร์ รัตนะมงคลกุล นายกสมาคมพลเมืองนครนายกและเครือข่ายอนุรักษ์ป่าเขาใหญ่ จ.นครนายก และ จ.ปราจีนบุรี พร้อมคณะ คัดค้านโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำคลองมะเดื่อ จ.นครนายก และโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำรอบพื้นที่ป่ามรดกโลก ดงพญาเย็น-เขาใหญ่

นายสุธีร์ กล่าวว่า การสร้างอ่างเก็บน้ำและเขื่อนรอบเขาใหญ่ที่เป็นมรดกโลก อาจส่งผลกระทบกับการถูกถอนออกจากการเป็นมรดกโลก และทำให้สูญเสียฝืนป่าเขาใหญ่ไปอีก 20,000 ไร่ ซึ่งเป็นหัวใจของระบบนิเวศ ไม่ใช่ป่าอนุรักษ์ทั่วไป เพราะคือนิเวศลำธารที่ปลูกสร้างไม่ได้ และการสร้างต่อไปก็จะมีการบุกรุกพื้นที่ของสัตว์ป่า ซึ่งจะทำให้สัตว์ป่าไม่มีที่อยู่ ในขณะนี้จังหวัดนครนายก มีช้างเข้ามาเหยียบคนเสียชีวิตแล้ว 1 ราย แต่การทำประชาพิจารณ์ก็ยังเป็นไปอย่างเงียบๆ มีเงื่อนงำ มีการอ้างหน่วยงาน ขั้นตอนที่กระทบด้านสิ่งแวดล้อมทางยุทธศาสตร์   จึงอยากให้ตรวจสอบเรื่องนี้และฟังความเห็นของประชาชนอย่างแท้จริง เพราะในรายงานอ้างว่าไม่มีเสืออยู่ในพื้นที่ แต่ความจริงแล้วยังมี “เสือ” อยู่  ดังนั้นขอให้ยุติการทำประชาพิจารณ์จนกว่าการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมทางยุทธศาสตร์จะได้ข้อยุติ และเคลียร์เรื่องมรดกโลกด้วย

ด้านนายพูนศักดิ์ กล่าวภายหลังการรับหนังสือว่า กมธ.ให้ความสำคัญกับการประเมินด้านสิ่งแวดล้อมทางยุทธศาสตร์ ดังนั้นข้อมูลที่ยังคลุมเครือก็จะใช้ขั้นตอนของกมธ.ฯ คลี่คลาย เพื่อให้ประชาชน และสาธารณชนได้รับทราบ ซึ่งบริเวณดังกล่าวเช่นเดียวกับพื้นที่ จ.ระนอง ที่กำลังจะมีการขึ้นทะเบียนมรดกโลกบริเวณป่าชายเลน และเป็นพื้นที่ที่กำลังมีโครงการแลนด์บริดจ์ เป็นที่สังเกตว่า หน่วยงานภาครัฐพยายามเร่งรัดดำเนินโครงการให้เกิดขึ้น โดยละเลยความเห็นของประชาชน และปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งทั้งสองพื้นที่อาจจะส่งผลกระทบกับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ดังนั้น กมธ.ฯจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมชลประทาน และผู้ร้อง มาให้ข้อมูล เพื่อทำให้เกิดความชัดเจนต่อไป.