หัวเว่ย เล็งเห็นโอกาสและความท้าทายในยุค Mobile AI ซึ่งกำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการสื่อสาร การสร้างข้อมูล และการใช้งานข้อมูล โดยปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะกลายเป็นบริการที่ทุกคนเข้าถึงได้อย่างแพร่หลาย ทุกที่ ทุกเวลา
“ในอนาคต AI จะเข้ามามีบทบาทอย่างมากในอุตสาหกรรมมือถือ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงวิธีที่ข้อมูลถูกสร้าง แชร์ และใช้งาน ทำให้การใช้งานสมาร์ทโฟนราบรื่นขึ้นและโต้ตอบได้มากขึ้น เช่น การสั่งงานด้วยเสียงหรือการอ่านอารมณ์” นายหลี่ เผิง รองประธานอาวุโสฝ่ายองค์กรและประธานฝ่ายขายและบริการไอซีทีของหัวเว่ย กล่าว
จากการคาดการณ์ของ IDC ในปี 2571 จะมีการจัดส่งสมาร์ทโฟน AI ทั่วโลกกว่า 900 ล้านเครื่อง พร้อมด้วยอุปกรณ์ AI กว่า 1,000 ประเภทใหม่ๆ ที่จะทำให้การใช้งาน AI ในชีวิตประจำวันเป็นไปได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ภายในปี 2573 คาดว่าคนส่วนใหญ่จะมีเอเจนต์ AI (AI agent) ส่วนตัวที่คอยช่วยเหลือ ทั้งในบ้าน ที่ทำงาน และการเดินทาง ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้ชีวิตและสร้างข้อมูลมากขึ้นกว่าเดิมถึง 10 เท่า
นายหลี่ กล่าวที่งาน Global MBBF 2024 ว่า หัวเว่ยมองเห็นความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย เพื่อตอบสนองต่อความต้องการใหม่ๆ ในยุค AI โดยผู้ให้บริการสามารถใช้เครือข่าย 5G-A เพื่อสร้างระบบที่รวดเร็วและเสถียรขึ้น รวมถึงปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานด้านเครือข่าย เช่น การให้บริการเอเจนต์ AI สำหรับผู้บริโภคทั่วไปและบ้านอัจฉริยะ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์การใช้งาน
ในตลาด B2B ผู้ให้บริการสามารถใช้ AI เพื่อนำเสนอบริการและอุปกรณ์ AI ในราคาที่เข้าถึงได้ เพื่อสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงใช้เทคโนโลยี AI และความสามารถด้านเครือข่ายเพื่อสนับสนุนลูกค้าอุตสาหกรรมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างชาญฉลาด
หัวเว่ย มองว่าการใช้ AI ในการบริหารเครือข่ายและการบำรุงรักษาจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น การใช้ผู้ช่วยนักบิน AI (AI-copilot) ที่สามารถช่วยวิศวกรภาคสนามในการค้นหาจุดเสียของฮาร์ดแวร์และซ่อมแซมได้รวดเร็วขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ที่จะนำรูปแบบธุรกิจใหม่เข้าสู่ตลาดด้วยบริการ AI เช่น New Calling, กล่อง AI สำหรับบ้าน และการเชื่อมต่อในระบบคลาวด์ ซึ่งสามารถสร้างรายได้ใหม่จากบริการ VIP และการเปิดเผย APIs เครือข่ายเพื่อขยายการใช้งาน AI ไปสู่ตลาด B2B2C
“หัวเว่ยพร้อมที่จะทำงานร่วมกับผู้ให้บริการและพันธมิตรในอุตสาหกรรม เพื่อสร้างเครือข่าย AI ที่สามารถรองรับการใช้งานในอนาคต ด้วยความร่วมมือและนวัตกรรม หัวเว่ยเชื่อว่าทุกฝ่ายสามารถปลดล็อกคุณค่าที่แท้จริงในยุค Mobile AI ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญในการก้าวสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน” นายหลี่ กล่าวทิ้งท้าย