เมื่อวันที่ 5 พ.ย. เวลา 09.55 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอเวชระเบียน การพักรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า กระทรวงยุติธรรม โดยกรมราชทัณฑ์ยินดีให้ความร่วมมือ ทั้งนี้ให้กรมราชทัณฑ์ดำเนินการหลายรอบแล้วตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม สังคมอาจเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะในเรือนจำมี 3 ความเข้าใจ คือ 1. เรือนจำ 2. ในโรงพยาบาล 3. ที่คุมขังอื่น โดยตรงนี้อยู่ในกฎหมาย และกฎหมายดังกล่าวถูกแก้ไขในสมัยรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อต้องการลดความแออัด แต่ไม่ว่าอยู่ที่ใด เราจะปฏิบัติเหมือนกับอยู่ในเรือนจำ ตนจึงเชื่อว่าเรือนจำจะส่งหลักฐานในกรณีของนายทักษิณไปให้ ขอยืนยันว่าไม่มีสักนาทีที่นายทักษิณออกจากห้องรักษาตัว เช่นเดียวกับนักโทษทั่วไปที่ออกไปรักษาตัวในโรงพยาบาลอื่นๆ เช่นกัน ซึ่งมีทั้งแบบไป-กลับ และนอนค้างคืน
พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า กรมราชทัณฑ์ยินดีจะให้ข้อมูล แม้แต่กรณีที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ทำหนังสือมา และผู้ตรวจการแผ่นดินมีคำวินิจฉัยในเรื่องเดียวกัน และมีผู้เสียหายคนเดียวกัน แต่ผู้ตรวจการแผ่นดินบอกว่าไม่มีความผิด ขณะที่กสม.ระบุว่าเป็นการละเมิดสิทธิ แต่ในทางกฎหมาย ถ้าหน่วยงานอิสระรับเรื่องไว้ตรวจสอบ อีกองค์กรหนึ่งไม่ควรจะมีความเห็นต่างกัน เพราะมันอยู่ในเอกสาร แต่ไม่ว่าจะอย่างไร เราจะให้ความร่วมมือและพร้อมจะชี้แจง
เมื่อถามว่าความเห็นที่ไม่ตรงกันระหว่าง 2 หน่วยงาน จะทำให้ได้เปรียบในการชี้แจงหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า กสม.ไม่ได้สอบความเห็น แต่ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบละเอียด และมีการสอบพยาน อีกทั้งตามรายงานบ่งชี้ว่ามีการเข้าไปพบนายทักษิณด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่าการอนุญาตให้เข้าเยี่ยม ถือว่าอยู่ในอำนาจของกรมราชทัณฑ์หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การเยี่ยมอยู่ในระเบียบของการเยี่ยม เราชี้แจงไปแล้ว แต่สามารถขอหลักฐานได้ การพูดของคนสามารถเปลี่ยนแปลงได้แต่เรื่องหลักฐานนั้นสำคัญ ยืนยันว่าปฏิบัติตามกฎหมายทุกประการ เราจะไม่ทำอะไรนอกเหนือกฎหมาย
เมื่อถามว่าได้รับรายงานว่า พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าเยี่ยมนายทักษิณหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ตนไม่ได้รับรายงาน ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของกรมราชทัณฑ์