ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดสำโรงเกียรติ ต.บักดอง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ พระครูอรุณ ปุญโญภาส เจ้าอาวาสวัดสำโรงเกียรติ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายเฉลิม เลิศศรี พร้อมด้วย นางสุรัตน์ เลิศศรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในงานพิธีทอดถวายกฐินสามัคคีวัดสำโรงเกียรติ ประจำปี 2567 โดยมีพุทธศาสนิกชนและญาติธรรมในพื้นที่บ้านสำโรงเกียรติและคณะพุทธศาสนิกชนจากกรุงเทพมหานคร ร่วมเป็นเจ้าภาพทอดถวายกฐินสามัคคีในครั้งนี้ด้วย โดยได้จตุปัจจัยเป็นเงินสด 647,642 บาท และถวายเก้าอี้ 300 ตัว ตัวละ 200 บาท รวมมูลค่า 60,000 บาท ทั้งนี้เพื่อนำจตุปัจจัยไปสมทบทุนบูรณะซ่อมแซมอาคารประดิษฐานหลวงพ่อพระตาตน และเสนาสนะภายในวัดสำโรงเกียรติ ต่อไป
สำหรับ วัดสำโรงเกียรติ เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย มีพื้นที่ 11 ไร่ 3 งาน 60 ตารางวา มีพระอธิการอุทัย มหาปุญฺโญ เป็นเจ้าอาวาสองค์แรก ก่อตั้งวัดเมื่อปี พ.ศ. 2457 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2525 มีหลวงพ่อพระตาตน เป็นพระพุทธรูปแบบขอมปางสมาธิสะดุ้งมาร ขนาดหน้าตักกว้าง 4 นิ้ว สูง 5 นิ้ว สร้างด้วยเกสรดอกไม้ผสมครั่งหรือยางชันปั้นเป็นพระพุทธรูปเรียกว่า “พระตาตน” ตามชื่อของคนที่นำมาถวาย คือ ตาตน เป็นคนเขมรตํ่า มีญาติอยู่ที่บ้านสำโรงเกียรติ ไปมาหาสู่กันเป็นประจำ วันหนึ่งตาตนได้นำไซไปดักจับปลาที่ร่องนํ้าเชิงเขาทางทิศใต้ของบ้านสำโรงเกียรติ รุ่งขึ้นไปกู้ไซที่ดักเอาไว้ พบพระพุทธรูปติดไซอยู่ จึงเอาออกจากไซแล้วโยนลงนํ้า
พอวันรุ่งขึ้นไปกู้ไซอีกก็เห็นพระพุทธรูปติดไซอยู่ดังเช่นเดิม พิจารณาเห็นว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงได้นำมาฝากไว้ที่บ้านญาติ เมื่อตกกลางคืนตาตนและญาติฝันว่าเอาพระเข้าบ้านจะไม่เป็นมงคลให้เอาไปฝากไว้ที่วัด รุ่งขึ้นตาตนได้นำพระพุทธรูปเกสรไปถวายวัดสำโรงเกียรติ เพื่อเป็นสมบัติของวัด เจ้าอาวาสจึงได้แจ้งให้ญาติโยมประชาชนใกล้เคียงได้ทราบกัน ซึ่งต่างพากันมานมัสการอย่างคับคั่ง ทำให้พระตาตนเป็นที่เคารพและบนบานกันมา ต่อมาจึงพากันเรียกขานว่า หลวงพ่อพระตาตน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา.