สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ว่า จำนวนผู้สื่อข่าวที่ถูกสังหารระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ เพิ่มขึ้นถึง 162 ราย ตลอดช่วงเวลาดังกล่าว ขณะที่นางออเดรย์ อาซูเลย์ ผู้อำนวยการใหญ่ของยูเนสโก ระบุว่า “ในปี 2565-2566 มีผู้สื่อข่าวถูกสังหารทุก ๆ 4 วัน”

สถิติผู้สูญเสียสูงสุดมาจากในภูมิภาคลาตินอเมริกาและแคริบเบียน ซึ่งอยู่ที่ 61 ราย ด้านภูมิภาคอเมริกาเหนือและยุโรปตะวันตก มีผู้เสียชีวิตน้อยที่สุดคือ 6 ราย

ทั้งนี้ การเสียชีวิตของผู้สื่อข่าวส่วนใหญ่เมื่อปี 2566 เป็นการถูกสังหารระหว่างลงพื้นที่ขัดแย้ง โดยมีผู้สื่อข่าวเสียชีวิต 44 ราย หรือร้อยละ 59 ของจำนวนทั้งหมดในปีนั้น และในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตคิดเป็นผู้หญิง 14 ราย หรือร้อยละ 9 และอย่างน้อย 5 ราย มีอายุอยู่ในช่วงระหว่าง 15-24 ปี

รายงานของยูเนสโกระบุด้วยว่า จากสถิติตั้งแต่ปี 2549 ร้อยละ 85 ของคดีสังหารสื่อมวลชนทั้งหมดที่ยูเนสโกติดตาม “ไม่ได้รับการคลี่คลาย” อย่างไรก็ดี อัตราส่วนของคดีในปี 2561 อยู่ที่ร้อยละ 89 ซึ่งมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากร้อยละ 95 เมื่อปี 2555

นอกจากนั้น ยูเนสโกได้ติดต่อเพื่อขอทราบความคืบหน้า ของคดีการสังหารผู้สื่อข่าวใน 75 ประเทศ ปรากฏว่า 17 ประเทศไม่ตอบกลับ และอีก 9 ประเทศรับทราบคำร้อง แต่ยังไม่ได้ดำเนินการเพิ่มเติม

รายงานระบุว่า คดีฆาตกรรมผู้สื่อข่าวซึ่งได้รับการคลี่คลายแล้ว 210 คดีนั้น ส่วนใหญ่ใช้เวลาดำเนินการโดยเฉลี่ย 4 ปี

อนึ่ง การประชุมเกี่ยวกับความปลอดภัยของสื่อมวลชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ซึ่งจัดโดยยูเนสโก จะมีขึ้นในวันที่ 6 พ.ย. นี้ ณ กรุงแอดดิสอาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES