เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายยุทธนา วิมลเมือง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.ตรัง พร้อมด้วย เครือข่ายชมรมตรังต้านโกง และนายธวัช องศารา ผอ.ส่วนควบคุมการก่อสร้างอาคารและผังเมืองเทศบาลนครตรัง ลงพื้นที่ตรวจสอบ หลังมีประชาชนร้องเรียนโครงการก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์แบบพิเศษ 6 ชั้น โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดกะพังสุรินทร์) ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง งบประมาณกว่า 72 ล้านบาท แต่สร้างไม่เสร็จ ผู้รับเหมาทิ้งงาน มีเพียงโครงสร้าง 3 ชั้น ชั้นล่างสุดยังคงมีการขึ้นโครงสร้างที่ยังดำเนินการไม่เสร็จมีเหล็กลวดโผล่ให้เห็น และสภาพมีหญ้า วัชพืชขึ้นปกคลุม เนื่องจากมีการทิ้งงานเป็นเวลานาน

โดยใช้ชื่อโครงการอาคารอเนกประสงค์แบบพิเศษ 6 ชั้น โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดกะพังสุรินทร์) พื้นที่ก่อสร้าง ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง สัญญาเลขที่ 24/2564 ลงวันที่ 2 ส.ค. 64 เริ่มต้นสัญญา วันที่ 3 ส.ค. 64 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 23 ก.ค. 66 ราคางบประมาณตั้งไว้ 84,000,000 บาท ราคากลาง 86,246,135.18 บาท ราคาตามสัญญาจ้าง 72,240,000 บาท ค่าปรับวันละ 72,240 บาท จำนวน 14 งวด มีเทศบาลนครตรัง เป็นเจ้าของโครงการ มี กิจการร่วมค้า XXXXXXXXX เป็นผู้รับจ้าง

นายธวัช กล่าวว่า โครงการนี้ ได้มีการดำเนินการมาสักพักหนึ่งแล้ว และผู้รับจ้างได้ดำเนินการก่อสร้างไปทั้งหมดที่ส่งมอบงานที่เสร็จทั้งหมด 5 งวด จากทั้งหมด 14 งวด ซึ่งโครงการดังกล่าวที่ได้ตั้งงบประมาณไว้ที่สภาได้อนุมัติไว้ 84 ล้านกว่าบาทเป็นตัวเลขกลม ๆ แต่ด้วยผู้รับจ้างได้เสนอราคา มีผู้เสนอราคาต่ำสุดก็ 72 ล้านกว่าบาท ลดจากราคากลางไป 12 ล้านบาท ก็ดำเนินการก่อสร้างมาเทศบาลได้ตรวจรับ 5 งวด จากจำนวน 14 งวด อย่างที่ทราบก็ไม่สามารถดำเนินการสร้างให้เสร็จตามสัญญาได้ ด้วยเหตุผลที่เขาอ้างคือขาดสภาพคล่องทางด้านการเงิน

นายธวัช กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ทางเทศบาลเองได้พยายามแก้ปัญหา แต่ในที่สุดก็ต้องยกเลิกสัญญาไปเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 67 และแจ้งเวียนไปที่กระทรวงการคลังเพื่อให้กระทรวงการคลังดำเนินการตามระเบียบในการแจ้งเรียนผู้รับงานต่อไป ในส่วนของเทศบาลนครตรังได้ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการนำค่างานของการก่อสร้างที่เหลือเพื่อดำเนินการให้แล้วเสร็จเข้าสู่แผนพัฒนาของเทศบาลต่อไป และคาดว่ากลางเดือนพฤศจิกายนนี้จะนำเข้าสู่แผนพัฒนาของเทศบาล และหลังจากนั้นจะพิจารณาขออนุมัติจากสภาในส่วนของงบประมาณที่เหลือเพื่อดำเนินการก่อสร้างต่อไป

นายธวัช กล่าวว่า สำหรับผลกระทบที่ได้รับจากการได้รับข้อมูลจากโรงเรียนเทศบาล 2 ก็มีผลกระทบต่อแผนการศึกษาของเทศบาล 2 เป็นอย่างมาก อย่างที่ทราบโรงเรียนเทศบาล 2 เป็นโรงเรียนที่เน้นทางด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งผู้ปกครองมีความสนใจที่จะส่งบุตรหลานมาเรียนเยอะมาก ผลการเรียนของนักเรียนเป็นที่น่าชื่นชม ติดระดับประเทศ ผลกระทบทำให้แผนการศึกษาคลาดเคลื่อนไปทั้งหมด แทนที่จะได้รับนักเรียนเพิ่มขึ้น ได้เพิ่มโอกาสให้กับลูกหลานพี่น้องชาว จ.ตรัง ได้เรียนที่โรงเรียนดี ๆ การศึกษาดี ๆ ก็ล่าช้ากันไป ทำให้เยาวชนเสียโอกาส อยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถ้ากำหนดหลักเกณฑ์ที่สามารถที่จะมิติของการเปิดกว้างก็ไปได้ แต่มิติที่ว่าของผู้รับจ้างที่มีคุณภาพที่จะสามารถมาทำงานโครงการของรัฐให้แล้วเสร็จไปตามสัญญา คิดว่าช่วยพิจารณาเพิ่มเติมให้หน่อย เพื่อให้ได้เป็นประโยชน์กับประชาชนและประเทศชาติ

นายยุทธนา กล่าวว่า เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของผู้ช่วยเลขาธิการ ภาค 9 ให้ทาง ป.ป.ช.ดำเนินการแก้ไขปัญหาการทิ้งร้าง การที่โครงการของโรงเรียนมีการทิ้งร้าง ทำให้สูญเสียโอกาสเป็นอย่างยิ่ง ในส่วนของ ป.ป.ช.เอง ผู้รับเหมาที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ เรื่องของสามัญสำนึกในการที่ท่านเข้ามาเสนอราคาและขอมาเป็นคู่สัญญากับรัฐ ท่านต้องมีความพร้อมที่จะการจัดทำในที่สาธารณะ การจัดทำโรงเรียน ให้กับนักเรียนให้กับเยาวชน ซึ่งทราบว่าบริษัทนี้ก็มีผลงานการทิ้งงานของโรงพยาบาลมาด้วย 2-3 แห่ง และมาทิ้งงานโรงเรียนอีก ซึ่งตรงนี้ก็ต้องว่าด้วยจิตสำนึกและสามัญสำนึกของบริษัทที่เป็นคู่สัญญา ที่สร้างความสูญเสียโอกาสและการพัฒนาให้กับนักเรียนและเยาวชน

ในเรื่องของหน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแลเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้างก็ต้องมีการกำหนดเงื่อนไขหรือคุณสมบัติระเบียบที่ให้มันชัดเจนและก็สามารถปฏิบัติได้อย่างดีของเจ้าหน้าที่ของรัฐในการกล้าที่จะไม่พิจารณาหรือเลือกบริษัทที่เข้ามาเสนอราคาที่ไม่มีคุณสมบัติชัดเจน หรือมีความเสี่ยงที่จะเป็นผู้ทิ้งงานอีก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของคุณภาพ ประวัติต่าง ๆ ที่มาเสนอราคา ควรมีมาตรการที่ช่วยคุ้มกันเจ้าหน้าที่ให้ดีกว่านี้

ในส่วนจังหวัดตรังที่มีโครงการทิ้งร้างจำนวนมากนั้น มองว่าจะต้องมีการแก้ปัญหาเชิงระบบ ซึ่งมองว่ามันมีมูลค่ามากมายมหาศาลที่ทิ้งงานไป ซึ่งไม่ใช่แค่ส่วนราชการเพียงอย่างเดียวที่เป็นผู้ดำเนินการเพราะว่าภาคเอกชนเองก็ดีที่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมาก ในการที่จะมีส่วนดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามสัญญาก็ต้องฝากฝ่ายการเมืองก็ดี ฝ่ายข้าราชการก็ดีในการกำหนดเงื่อนไขหลักเกณฑ์พิจารณากลั่นกรองทั้งในเชิงปริมาณและในเชิงคุณภาพให้ได้บริษัทคู่สัญญาที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามวัตถุประสงค์ตาม TOR หรือตามเจตนารมณ์ของรัฐในการก่อสร้างโครงการต่างๆ.