วันที่ 4 พฤศจิกายน ที่ วนอุทยานถ้ำแก้วโกมล ตำบลแม่ลาน้อย อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานในการเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวถ้ำแก้วโกมล เพื่อขับเคลื่อนแผนพัฒนาจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในด้านภาคการท่องเที่ยวและบริการในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชน และเป็นการสร้างกิจกรรมในด้านการท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี อีกทั้งเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์และรองรับการขยายตัวของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาสู่แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมี นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา รอง ผวจ., นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ รอง ผวจ., นายกรวิทย์ ช่วยดู ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแม่ฮ่องสอน, ว่าที่ร้อยตรีภานุวัฒน์ ขัดนาค ผอ.ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน, นายภานุเดช ไชยสกูล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทีมท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอนพลัส, พ.ต.ท.สุวิทย์ บุญยะเพ็ญ ส.ทท.4 กก.2บก.ทท.2(แม่ฮ่องสอน) และนักท่องเที่ยวในพื้นที่ร่วมกิจกรรม
โดยถ้ำแก้วโกมล จัดว่าเป็นถ้ำที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย เป็นหนึ่งในถ้ำผลึกแร่แคลไซต์ที่ค้นพบเพียง 3 แห่งทั่วโลก คือพบที่ ประเทศจีน ประเทศออสเตรเลีย และประเทศไทย ถ้ำแห่งนี้เป็นถ้ำผลึกแคลไซต์ ที่ประกอบด้วยหินในตระกูลคาร์บอเนต ชนิดแอนไฮดรัสคาร์บอเนต ที่มีความใสบริสุทธิ์มีรูปลักษณ์หลากหลายลักษณะ มีรูปผลึกอยู่ในระบบสามแกนราบ ส่วนใหญ่เป็นรูปหกเหลี่ยมยาวยอดแหลมหรือรูปสี่แหลมขนมเปียกปูน มีแนวแตกเรียบที่สมบูรณ์ 3 แนว เป็นสิ่งที่พบได้ยากในธรรมชาติ ภายในถ้ำจะมีผลึกแร่แคลไซต์ที่มีลักษณะคล้ายเกล็ดหิมะ มีที่มาว่า ถ้ำน้ำแข็ง สามารถมองเห็นได้หลากหลายตามจินตนาการ เช่น ปะการัง ดอกกะหล่ำ เกล็ดน้ำแข็ง ดอกเข็ม และโคมไฟเพดาน มีสีขาว ใส เหลือง แดง และน้ำตาล กระจายอยู่ทั่วบริเวณผนังถ้ำ อีกทั้งยังมีหินย้อยที่กำลังก่อตัวซึ่งเกิดจากรอยแยกภายใน และมีหินงอกที่มีลักษณะ เลื่อม ใส คล้ายมุก ภายในถ้ำจะแบ่งเป็นหลายห้องแต่ละห้องจะอยู่ถัดกันไปตามความลึก มีความยาว 120 เมตร ลึกลงไป 30 เมตร แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเข้าชมถ้ำเป็นจำนวนมาก
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณสยามมงกุฎราชกุมาร (พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.10) เสด็จพระราชดำเนินถึงวนอุทยานแม่ลาน้อย (ชื่อในขณะนั้น) โดยเฮลิคอปเตอร์ส่วนพระองค์และพระราชดำเนินทอดพระเนตรสภาพภายในถ้ำ ซึ่งเต็มไปด้วยแร่แคลไซต์รอบด้านทั้งบริเวณเพดานถ้ำและผนังภายในถ้ำ
ทั้งนี้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานชื่อถ้ำแห่งนี้ว่า “ถ้ำแก้วโกมล” ซึ่งมีความหมายว่า “ถ้ำแห่งแก้วอันงดงาม” และได้พระราชทานพระราชดำริให้ประชาชนในพื้นที่ ได้ช่วยกันมีส่วนร่วมในการรักษา ดูแลอนุรักษ์ถ้ำแห่งนี้ไว้ เพราะเป็นทรัพยากรที่มีค่าของชาติ พร้อมกับทรงเน้นว่า ในการจัดการท่องเที่ยวภายในถ้ำนั้นต้องเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมของพื้นที่เดิมเอาไว้ให้สมบูรณ์มากที่สุด ถ้ำแก้วโกมล อยู่บนทางหลวงหมายเลข 108 (เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน) กิโลเมตรที่ 132-133 ห่างจาก อ.แม่ลาน้อย ประมาณ 5 กิโลเมตร ห่างจาก อ.แม่สะเรียง ประมาณ 35 กิโลเมตร และห่างจาก อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ประมาณ 140 กิโลเมตร จากแม่ฮ่องสอน ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 เข้าสู่ อ.แม่ลาน้อย จากหน้าโรงพยาบาลแม่ลาน้อยเลี้ยวเข้าไปอีก 5 กม. ถึงบริเวณที่ทำการวนอุทยานแก้วโกมล หากเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ ผ่าน อ.ฮอด–อ.แม่สะเรียง ตามถนนสาย 108 ถึง อ.แม่ลาน้อย ผ่านหน้าโรงพยาบาลแม่ลาน้อย เลี้ยวขวา เข้าไปประมาณ 5 กม.ถึงถ้ำแก้วโกมล โดยเจ้าหน้าที่จะคอยอำนวยความสะดวกจัดให้เข้าชมเป็นชุด ชุดละ 20 คน เมื่อชุดแรกชมเสร็จออกจากถ้ำ ชุดที่ 2 และชุดต่อ ๆ ไปก็จะเข้าชมตามลำดับ