สำนักข่าวซินหัวรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ว่ากระทรวงโครงสร้างพื้นฐานของญี่ปุ่นเป็นผู้ทำการสำรวจดังกล่าว เนื่องจากด้วยเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงบนคาบสมุทรโนโตะ ในจังหวัดอิชิกาวะเมื่อวันที่ 1 ม.ค. ปีนี้ เพื่อเน้นย้ำความท้าทายสำคัญ ในการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ ที่อาจเกิดขึ้นกับระบบการจ่ายน้ำในพื้นที่ประสบภัย
การสำรวจนี้ได้ประเมินผู้ให้บริการจ่ายน้ำและทิ้งน้ำเสียทั่วญี่ปุ่น ปรากฏว่า มีสถานที่สำคัญเพียง 3,649 แห่ง จากทั้งหมด 24,974 แห่ง ที่ปรับปรุงระบบจ่ายน้ำและทิ้งน้ำเสีย ให้สามารถทนทานต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวเสร็จสมบูรณ์
ทั้งนี้ กรุงโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น มีอัตราการปรับปรุงระบบจ่ายน้ำและทิ้งน้ำเสีย ให้สามารถทนทานต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหว เสร็จสมบูรณ์สูงสุดที่ 52.4% ส่วนจังหวัดคางาวะมีอัตรานี้เป็นศูนย์
กระทรวงโครงสร้างพื้นฐานของญี่ปุ่น จึงวางแผนส่งเสริมเทศบาลทุกแห่งในประเทศ ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงความทนทานต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหว และเพิ่มการสนับสนุนทางเทคนิค เพื่อยกระดับความแข็งแกร่งโดยรวมในสถานการณ์ภัยพิบัติในอนาคต.
ข้อมูล : XINHUA
เครดิตภาพ : AFP